30 ปีใต้ร่มกาสาวพัสตร์
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน จุดไฟในใจคนฉบับนี้เป็นจุดไฟในใจคนฉบับแรกนับแต่วันเถลิงศก คือ วันสงกรานต์ ประจำปี 2566 อาตมาขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัย คุณพระพุทธเมตตาประทานพร คุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข คุณพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ คุณเทพเจ้าน้อยใหญ่ พระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม พระพิฆเนศวร เทวดานพเคราะห์ทั้งเก้าพระองค์ ครูบาอาจารย์ทั้งปวง ท้าวเวสสุวรรณ กุเวรมหาราช กุมารทองสมบัติ พลังทิพย์ พลังธรรม พลังจักรวาล ดารารัศมี จงดลบันดาลประทานพรทุกท่าน จงมีแต่ความสุขความเจริญทุกประการ ให้ทุกท่านมีแต่ความโชคดี โชคดี และโชคดี ในทุกทิวาราตรีเทอญ
เวลาผ่านเลยไปอย่างรวดเร็ว มาถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาสามสิบปีเต็มพอดีที่อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ เพราะอาตมาบวชในวันที่ 16 เมษายน 2536 ณ พัทธสีมาวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม พระอุปัชฌาย์ คือ พระพิพัฒน์วิริยาภรณ์ (หลวงพ่อผูก) วัดพระปฐมเจดีย์ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม พระกรรมวาจาจารย์ คือ พระมหาวนา ปรกฺกโม วัดไผ่ล้อม พระอนุสาวนาจารย์ คือ พระมหาวิเชียร กนฺตสีโล วัดไผ่ล้อม ก็ถือได้ว่าอาตมาเกิดใหม่เป็นพระสงฆ์ก็ที่วัดไผ่ล้อม และอยู่วัดไผ่ล้อมแห่งนี้มาตลอดสามสิบปี ไม่เคยจากไปไหน อยู่เป็นอันเตวาสิกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลมาตลอด ตราบจนท่านได้มรณภาพลงในวันวิสาขบูชา ปี 2548 ก็เรียกได้ว่า พอเวลาวันเถลิงศกมาถึง ก็ระลึกนึกถึงเหตุการณ์นี้พอดี สามสิบปีพอดี เป็นสามสิบปีที่มีคุณค่ามาก เพราะหากไม่ได้ร่มกาสาวพัสตร์ อาตมาก็อาจไม่มีโอกาสได้อยู่กับครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณวิเศษยิ่งอย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ไม่ได้ชักนำให้ครอบครัวอาตมาได้เข้าใกล้พระพุทธศาสนา โยมแม่บุญส่งของอาตมาก็ได้อ่ศัยใต้ร่มเงาพระศาสนาจนถึงวาระสุดท้าย ก็นับว่าเป็นความภูมิใจของอาตมาในฐานะลูก ลูกที่บวชเป็นพระ คนเราได้บวชแล้ว จะปฏิบัติมากน้อยเพียงใด แต่ผลดีที่เกิดขึ้นแน่ คือ คนในครอบครัวเราได้เข้าวัด ได้ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาขึ้นอีกระดับ ก่อนบวชนี่อาจจะไม่ได้เข้าวัดกันเลย แต่พอมีลูก มีพี่น้องได้บวช ก็ได้เข้าวัดกัน ได้สร้างบุญกัน คนที่บวชก็ได้บุญไปด้วย คนที่บวชเป็นพระท่านว่าเป็นพุทธบุตร ญาติของคนบวช ก็เป็นญาติของพระศาสนาไปด้วย สามสิบปีที่ผ่านมาก็ภูมิใจแล้วว่า ครอบครัวเราได้เป็นญาติกับพระศาสนา และยังนำพาหลาย ๆ คนทั้งใกล้ไกลเข้ามาเป็นญาติกับพระศาสนา เป็นพี่น้องกันทางธรรม คือมีความรักใคร่กันอย่างพี่น้อง มีงานบุญอะไรตรงไหนก็ไป ก็ทำกันเต็มที่ อันนี้ก็เป็นประโยชน์จากการได้บวชตลอดมา
ตั้งแต่อาตมาบวชมา อาตมาก็ได้ร่ำเรียนวิชาหลายอย่างจากหลวงพ่อพูล ที่หลวงพ่อพูลโดดเด่นแน่ ๆ และได้ถ่ายทอดมาถึงอาตมา ก็คือวิชาพุทธาคม อักขรเลขยันต์ต่าง ๆ อาตมาก็ได้รับการถ่ายทอดวิชามา จนกล่าวได้ว่าอาตมามีวันนี้ได้ก็เพราะหลวงพ่อพูล นอกจากวิชาพุทธาคมแล้ว หลวงพ่อพูลยังได้สอนวิชาชีวิต คือ วิชาแห่งการเป็นพระสงฆ์ หลวงพ่อพูลสอนเสมอว่าให้เราตอบแทนสังคม เงินปัจจัยใส่สตางค์ที่ญาติโยมได้จบอุทิศมาถวายนั้น จะต้องเป็นประโยชน์แก่พระศาสนาและโลกให้มากที่สุด ที่ผ่านมาหลวงพ่อพูลได้ทำมาให้ดูเป็นตัวอย่างมาตลอด นอกจากนำปัจจัยมาบำรุงวัดไผ่ล้อมแล้ว หลวงพ่อพูลยังได้อุทิศปัจจัยนี้ในการสาธารณกุศลต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล ซึ่งนับว่าเป็นบุญอย่างมาก เพราะเป็นการช่วยชีวิตคน หรือโรงเรียน ที่ถือว่าเป็นการสร้างคน พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลท่านก็บำรุงมาตลอด โดยเฉพาะโรงเรียนใกล้ตัวท่านที่สุดอย่างโรงเรียนวัดไผ่ล้อม ทุกวันนี้ก็ยังมีนาม “พูลประชาอุปถัมภ์” เป็นอนุสรณ์ถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล และญาติโยมในครั้งนั้นที่ได้บำรุงโรงเรียนสืบมา เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลได้ละสังขารไปแล้ว อาตมาก็ยังถือเอาการปฏิบัติของหลวงพ่อพูลมาปฏิบัติอยู่ เงินปัจจัยทั้งหลายที่ญาติโยมได้อุทิศถวายมา ก็นำไปบำรุงวัด บำรุงพระสงฆ์ในวัดให้ถึงพร้อมด้วยปัจจัยสี่ ทำให้วัดไผ่ล้อมมีถาวรวัตถุอันงดงาม เด่นเป็นสง่า ให้สมแก่เป็นวัดที่พระอมตะเถราจารย์อย่างหลวงพ่อพูลเคยจำพรรษาอยู่ มิให้เสื่อมทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และอีกส่วนหนึ่งก็นำไปทำสาธารณกุศลต่าง ๆ แก่โรงเรียน แก่โรงพยาบาล รวมแล้วเป็นเงินกว่าหลักล้านบาท จนถึงบัดนี้รวม ๆ กันก็มากกว่าสิบล้าน ที่กระจายไปตามที่ต่าง ๆ เป็นประโยชน์แก่ผู้คน ปัจจัยนี้คือปัจจัยที่ญาติโยมได้ผ่านมาทางอาตมา อาตมาถือว่าอาตมาเป็นสะพานบุญให้บุญนั้นถึงที่หมาย ตามเจตจำนงของผู้อุทิศถวายปัจจัย ซึ่งอาตมาได้ถือหลักที่หลวงพ่อพูลได้วางไว้ คือ ไม่เรี่ยไร ไม่บังคับผู้ใด ให้บุญนั้นได้หลั่งมาเองดังฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน ของแบบนี้เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่อาตมาเห็นมากับตา สมัยหลวงพ่อพูล หลวงพ่อพูลจะคิดดำริสิ่งใด จะทำการบุญอะไร ท่านไม่พูดมากหรอก ท่านเป็นคนไม่พูด แต่หากมีใครได้รู้ดำริของท่านแล้ว ก็มีผู้คนร่วมบริจาคสมทบทุนเป็นจำนวนมาก จะก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ หลวงพ่อพูลจัดงานไหว้ครูทีหนึ่ง ๆ ปัจจัยที่ได้เรียกได้ว่านับกันไม่ทัน รวมกันแล้วก็เป็นเงินทุนนำไปต่อยอดเป็นบุญแก่พระศาสนา และแก่โลก จนมาถึงสมัยอาตมา อาตมาก็ได้เห็นจริงดังนั้น ว่าอาตมาจะกระทำสิ่งใด ก็มีญาติโยมผู้ใจบุญมาร่วมบุญกับอาตมาเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นบุญที่เราทำร่วมกัน ไม่ใช่แค่บุญของอาตมา หรือมีแต่อาตมาที่ได้เครดิต เครดิตนั้นเป็นของทุกคนที่ทำ บุญเป็นของทุกคนที่ได้ทำ
อาตมาก็ขออุทิศเรื่องนี้เป็นอนุสรณ์ถึง 30 ปีใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ อาตมาได้รับสิ่งมีค่ายิ่งจากครูบาอาจารย์อย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ทุกคนล้วนมีส่วนในชีวิตของอาตมา ทั้งสุข และทุกข์ อาตมาก็ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาในทุกสิ่งที่ได้ทำร่วมกันมา ขอเจริญพร