สุพรรณบุรี บิ๊กท็อปควงประภัตรลุยขอคะแนน สุพรรณมีหลายพรรคเข้ามา
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วย นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ดร.อุดม โปร่งฟ้า กรรมการบริหารพรรค นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 4 พรรคชาติไทยพัฒนา และสมาชิกพรรค เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงท่ามกลางพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอหนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี
นายประภัตร กล่าวปราศรัยเป็นคนแรกว่าเดิม อ.หนองหญ้าไซเป็นเมืองเล็ก ๆ ไม่เจริญเดินทางยากลำบาก หน้าฝนก็น้ำท่วม หน้าร้อนก็แห้งแล้งจนต้องแจกน้ำ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป เพราะได้รับการพัฒนา ตั้งแต่สมัยของนายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ตลอด 48 ปี ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชนจริงใจ และเลือกพรรคที่พร้อมทำงานให้ท่าน อยู่ใกล้และสนิทสนมกัน เช่น พรรคชาติไทยพัฒนา ที่มาดูแลทั้งในช่วงโรคระบาด ช่วงน้ำท่วม และช่วงน้ำแล้ง พร้อมอ้อนประชาชนให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนา และเลือกคนให้เลือก นายประภัตร และนายเสมอกัน พร้อมย้ำว่า นายวราวุธ มีความสามารถพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นในพื้นที่สุพรรณบุรีพรรคชาติไทยพัฒนาต้องชนะอย่างถล่มทลาย ขณะนี้ใกล้ยุบสภา มีพรรคการเมืองใหม่ๆเข้ามาติดป้ายจำนวนมากจนเสาไฟไม่มีที่ว่าง นายประภัตรได้ถามประชาชนที่มาฟังปราศรัยว่า ระหว่าง วราวุธ บิ๊กตู่ บิ๊กป้อม บิ๊กหนู โดยเฉพาะอุ๊งอิ๊ง จะเลือกใคร ชาวบ้านตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าเอาวราวุธ เป็นนายกรัฐมนตรี
นายวราวุธ กล่าวว่าขอบคุณประชาชน อ.หนองหญ้าไซ ทั้ง 6 ตำบล ที่เดินทางมาในวันนี้ และรู้สึกยินดีที่ประชาชนในพื้นที่มีคนของพรรคชาติไทยพัฒนาดูแลถึง 2 คน คือ นายจองชัย ที่ดูแลตั้งแต่รุ่นพ่อจนมาถึงปัจจุบันคือรุ่นลูกคือนายเสมอกัน และนายประภัตร ที่ดูแลมาตลอด 40 ปี ซึ่งอีกไม่นานนี้พวกเราจะได้พิสูจน์ความรักที่ประชาชนมีต่อพรรคชาติไทยพัฒนาอีกครั้ง เลือกตั้งรอบที่จะถึงนี้จะต้องกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใบหนึ่งเลือกคน ใบหนึ่งเลือกพรรค จึงขอให้พี่น้องประชาชน เลือกกาตัวแทนของพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นนายประภัตร หรือนายเสมอกัน โดย 3 ปีกว่าที่ผ่านมาในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำหลายโครงการเข้ามาแก้ไขปัญหาทั้งเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค เข้ามาเจาะบ่อบาดาลที่ อ.หนองหญ้าไซ จึงขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะหนึ่งในนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาในการเลือกตั้งครั้งนี้คือ ทั้งประเทศไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำอีก เพราะจะมีน้ำกินน้ำใช้ น้ำอุปโภคบริโภค ตลอดไป
นอกจากนี้ตลอด 3 ปี ที่ตนและนายประภัตร ได้ดำรงตำแหน่งในรัฐบาลนี้ เราทั้งสองคนได้ลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน และได้เดินทางไปในทำหน้าที่ในต่างประเทศ เพื่อนำข้อมูลที่รับฟัง มาทำเป็นนโยบาย ที่แก้ไขปัญหาของประเทศไทยได้จริง เหมือนสโลแกนพรรคว่า เรารับฟัง และเราทำจริง เป็นพรรคตัวจริงของชาวสุพรรณบุรี “พรรคของเราทำงานไม่เคยหยุด เราไม่เคยบอกว่าจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นของพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง หรือเป็นของตระกูลใดตระกูลหนึ่ง เราจึงขอเสนอตัวรับใช้พี่น้องประชาชนต่อ เพราะคงไม่มีใครรักคนสุพรรณบุรีมากไปกว่าคนสุพรรณบุรีด้วยกัน” นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ประเทศไทยมีที่นาอยู่ 60 ล้านไร่ พรรคต้องการให้ชาวนามีพันธุ์ข้าวที่ดี จึงมีนโยบายที่จะแจกพันธุ์ข้าวฟรี ให้ทั้ง 60 ล้านไร่ และเราจะมีเงินมอบให้ก่อนทำนาไร่ ละ 1,000 บาท และเราจะขยายเขตไฟฟ้าให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่การเกษตร พร้อมลดค่าไฟให้เหลือหน่วยละ 2 บาท นายวราวุธ ยังชูนโยบายสุขภาพดีมีเงินคืน โดยเชื่อว่าประชาชนทุกคนเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศ ถ้าทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็จะทำให้ประเทศขับเคลื่อนไปได้ ดังนั้นถ้าใครไม่เจ็บป่วย ก็จะมีเงินคืนให้ปีละ 3,000 บาท
นายเสมอกัน กล่าวปราศรัยว่า ตนฝันว่าอยากเห็นพี่น้องคนสุพรรณบุรีอยู่ดีกินดี เมื่อประเทศไทยเจริญ คนสุพรรณบุรีสบาย ตนก็จะทำงานได้สะดวกขึ้น และอีกความฝันคือการได้เดินตามหลัง นายวราวุธ เพราะเราทั้งสองคนชอบเอาปัญหากลับมาแก้ไข เพื่อพี่น้องประชาชน ทั้งช่วงโรคระบาด และช่วงน้ำท่วม ที่เรามอบสิ่งของจำเป็นให้พี่น้องประชาชน พร้อมยืนยันไม่ว่าเขตไหนจะเป็นของผู้ลงสมัครคนใด หากพรรคชาติไทยพัฒนาชนะทั้งจังหวัด เราก็จะทำงานพัฒนา จ.สุพรรณบุรี ร่วมกัน โดยในการพัฒนาท้องถิ่น พรรคมีนโยบายกระจายงบประมาณสู่ท้องถิ่น 10 ล้านบาท เพื่อสร้างแต้มต่อในการพัฒนาท้องถิ่น พร้อมชูนโยบายเกษตรกรรุ่นใหม่ขายคาร์บอนเครดิตได้ เพื่อขายคาร์บอนเครดิต สร้างแต้มต่อให้ประเทศ จึงขอให้พี่น้องชาวนาช่วยกันเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้นโยบายต่าง ๆ จะเป็นจริงได้ ขอให้ทุกคนเลือกพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อให้นายวราวุธได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เข้าไปขับเคลื่อนนโยบายทั้งหมดของพรรคเราให้เป็นจริง
ภัทรพล พรมพัก สุพรรณบุรี