กาญจนบุรี รองนายกลงพื้นที่ติดตามโครงการจัดหาน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

กาญจนบุรี  รองนายก ติดตามการดำเนินงานโครงการจัดหาน้ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
กาญจนบุรี เมื่อเวลา15.00 น วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 .พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะเดินทางมาติดตามการดำเนินงานโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานทุกภาคส่วนตลอดจนประชาชนจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมต้อนรับรองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ


พร้อมกันนี้ ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวรายงานการบริหารจัดการน้ำ และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับจังหวัดกาญจนบุรี ถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ปี ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา จากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่งผลทำให้ภาคกลางมีฝนตกหนักถึงหนักมากทำส่งผลกระทบต่อพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีได้แก่ อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอท่าม่วง อำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน อำเภอทองผาภูมิอำเภอไทรโยค อำเภอบ่อพลอย อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอเลาขวัญ อำเภอด่านมะขามเตี้ยอำเภอหนองปรือ และอำเภอห้วยกระเจา รวมทั้งสิ้น ๑๒ อำเภอ จำนวน ๗๒ ตำบล ๖๒๙ หมู่บ้านโดยจังหวัดกาญจนบุรี ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี ๒๕๖๕ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ซึ่งมีประชาชนได้รับความช่วยเหลือทั้งสิ้น จำนวน ๑.๙๖๗ ครัวเรือน เป็นเงินทั้งสิ้น ๙,๘๓๕,๐๐๐ บาทสำหรับการขับเคลื่อนเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของจังหวัดกาญจนบุรี จะได้ใช้กลไกคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดกาญจนบุรีในการขับเคลื่อนภารกิจการแก้ไขปัญหาอุทกภัย และบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดให้มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนต่อไป


จากนั้น นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้สรุปสถานการณ์น้ำและแผนงานพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดกาญจนบุรี ต่อรองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะว่าในอนาคตจะมีมาตรการแก้ไขในการก่อสร้างแหล่งน้ำต้นทุน บ่อเอ่อบาดาล กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และการกระจายในไปให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ในส่วนเรื่องที่ทางรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนเรื่องน้ำตั้งแต่ปี 2561-2565 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีทั้งหมด 1,486 โครงการ ทำให้พื้นที่ได้รับประโยชน์ 58,000 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 32,000 ครัวเรือนและสำหรับงบประมาณในปี 2566 รัฐบาลได้สนับสนุนอีก 29 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์ 15,000 ไร่ ครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์ 2,700 ครัวเรือน
ต่อจากนั้น นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้รายงานการขุดเจาะน้ำบาดาลและดำเนินงานโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี โดยโครงการดังกล่าวสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลหนองฝ้าย ด้วยระบบส่งน้ำถึง 23.3 กิโลเมตร ประชาชนได้รับประโยชน์ 2,767 ครัวเรือน 9,538 คน สำหรับโครงการดำเนินการส่งเสริมประสิทธิภาพระบบประปาน้ำบาดาลในระยะที่3 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลขยายโครงการทั้งหมด 3 ระยะ ซึ่งสามารถส่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคให้ประชาชนได้มากขึ้นอีก 200 ครัวเรือน ในพื้นที่หมูที่1,หมู่2,หมู่4,หมู่7 และหมู่9 ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะเร่งดำเนินการเพื่อให้ประชาชน 8 หมู่บ้าน 4,823 ครัวเรือน 16,124 คนมีน้ำเพื่อใช้อุปโภคบริโภคได้อย่างเพียงพอและลดภาระที่ประชาชนจะต้องซื้อน้ำเพื่อใช้อุปโภคบริโภคประมาณ 96,400,000 บาทต่อปี
จากนั้นนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้รายงานการพัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำแม่กลองโดยเน้นพื้นที่ที่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำซึ่งกรมชลประทานจะดำเนินการหาพื้นที่และสร้างแหล่งกักเก็บโดยนำน้ำมาจากแม่สายหลักของจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและป้องกันปัญหาน้ำท่วมให้กับประชาชนในพื้นที่


ต่อจากนั้นนายเชษฐ พวงจิตร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ได้รายงานการแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
นายวุฒิพงศ์ เนียมหอม รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้รายงานการปฏิรูปที่ดินในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เริ่มมาตั้งแต่ปี 2520 ในพื้นที่ 12 อำเภอ ปัจจุบันได้ปฏิรูปที่ดินในพื้นที่ที่ได้รับการประกาศราชกฤษฎีกาแล้ว จำนวน 746,000 ไร่ ซึ่งได้ดำเนินการให้กับเกษตรกรเข้าทำประโยชน์แล้วจำนวน 46,206 ราย และจากนั้นวุฒิพงศ์ เนียมหอม รองเลขาธิการสำนักงานการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้เชิญพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) โดยครั้งนี้ได้มอบเอกสารสิทธิ 2,131 ไร่ ให้กับนายอำเภอ 10 อำเภอ เพื่อส่งมอบให้กับเกษตรกรทั้งหมด 159 ราย


จากนั้นพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวทักทายกับประชาชนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมาพบกับพี่น้องชาวกาญจนบุรีและขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งตนเองได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาในที่ดินทำกินของประชาชน เพื่อความมั่นคงและการพัฒนาอาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน วันนี้ตนเองและคณะได้ติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆโดยเฉพาะในการบริหารจัดการน้ำและเรื่องปัญหาที่ดินทำกินให้กับพี่น้องในจังหวัดกาญจนบุรี จากการรายงานจะเห็นได้ว่าจังหวัดกาญจนบุรีมีผลกระทบเรื่องขาดแคลนน้ำ ผมจึงได้กำชับผู้ที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างทั่วถึง โดยให้กรมทรัพยากรน้ำ ติดตามและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ 5 อำเภอพร้อมกำกับดูแลปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ และขอให้จังหวัดกาญจนบุรีเร่งรัดประสานบรูณาการต่อยอดขยายผลระบบส่งน้ำโครงการพัฒนาน้ำบาดาลให้ครอบคลุม ทั้ง 5 อำเภอที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำรวมทั้งให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้ประชาชนในจังหวัดกาญจนบุรีจึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดติดตามและเสนอแนะให้ตนได้ช่วยแก้ปัญหาที่ติดขัดเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนเพราะรัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชน และขอความร่วมมือจากทุกท่านช่วยกันคิดและช่วยกันทำเพื่อพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคง สุดท้ายผมขอให้หน่วยงานราชการทุกหน่วยมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี