นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สิงห์บุรี บอก เป็นจังหวัดเเรกที่มาเยือนในปีนี้ ขับรถดำนา เข้าใจความลำบาก วน3 รอบหัวร้อน ด้านชาวนาปลื้มขอกอดไม่เคยเห็นนายกคนไหนที่รักและหวังดีกับชาวนาเท่าพลเอกประยุทธ์ พร้อมเด็กเเฟนคลับส่งกำลังใจ เฮลั่น ถ่ายรูปนายกรัฐมนตรี บอกคือของขวัญวันเด็กของหนู จากนายก
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมลงพื้นที่ตรวจราชการ พร้อมสวมสวมเสื้อหม้อฮ่อมทั้งคณะ
โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีเดินทางสักการะพระนาคปรกเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพระวัดโพธิ์ศรี เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเจ้าอาวาสระบุกับนายกรัฐมนตรีว่า พระนาคปรกวัดนี้ศักดิ์สิทธิ์จะขออะไรก็ขอได้ แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่จะมาบนและแก้บนด้วยคณะลิเกซึ่งมักจะสำเร็จทุกราย
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้ออกเดินทางไปยังพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี เพื่อตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ จากนั้นจะออกเดินทางจากพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ ต.น้ำตาล โดยก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้ไปติดตามความก้าวหน้าการ ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ หลังวัดโฆสิทราราม ป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนน้ำตาล ที่ได้ก่อสร้างไปแล้วกว่า 70 กม. ยังเหลืออีก 34 กม. ก็จะแล้วเสร็จทั้งหมด ส่วนพนังกั้นน้ำเลียบริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก จากประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ถึงชุมชนตำบลน้ำตาลระยะทาง 15 กม.มีคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 85 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนน้ำตาล บรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ขณะเดียวกันก็มีเด็กๆ มาให้กำลังใจ พร้อมกับ มาสะกิดมือนายกรัฐมนตรี เเละขอถ่ายรูป จากนั้นก็ส่งเสียงกรี๊ด พร้อมกับ บอกว่า นี่คือของขวัญวันเด็กจากนายกรัฐมนตรี
และเดินทางต่อไปยังพื้นที่นานำร่อง หมู่ที่ 1 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อเป็นประธานเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” โดยนายกรัฐมนตรีจะขับรถดำนาปลูกข้าว ร่วมกับชาวนา พร้อมกับปล่อยปลา ร่วมกับเกษตรกร ก่อนไปยังจุดพิธีเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” โดยมีชาวบ้านมาผูกขาวม้าให้การต้อนรับ รวมไปถึงนางภรณีย์ ธนาคมานุสรณ์ แม่ของนายชัยวุฒิ รัฐมนตรีเจ้าของพื้นที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ถามว่าแม่ใครนะ โดย นางภารณีย์ได้กล่าวว่าเป็นแม่ของนายชัยวุฒิ วันนี้ทำอาหารมาให้รับประทานมีทั้งแกงหน่อไม้ใส่ไก่ ไข่พะโล้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะจับสร้อยของนางภรณีย์ พร้อมกับแซวว่าเส้นโตของแท้หรือเปล่า ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับชาวบ้าน จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้สาธิตขับรถดำนาวน 2 รอบ ด้วยความคล่องแคล่วเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ฝึกซ้อมขับที่สนาม เฮลิคอปเตอร์ จังหวัดสิงห์บุรี โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีขับรถดำกล้า ชาวบ้านได้ตะโกนให้กำลังใจในยุครัฐมนตรีเป็นระยะ ขณะที่นิ้วรัฐมนตรีได้หันกลับมาโบกมือทักทายและส่งสัญลักษณ์ I love you ให้กับประชาชน นอกจากนี้ปล่อยปลานิล ซึ่งมีความเชื่อว่าจะมีความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องของทรัพย์สินที่เพิ่มพูนมากขึ้น หลังจากนั้นได้เยี่ยมชมนิทรรศการสินค้าเกษตร พร้อมกับระบุว่า หากเป็นสินค้าเกตรที่มีใบรับรอง
จะไม่สามารถกีดกันการค้าได้ ซึ่งขณะนี้สินค้าการเกษตรมีปัญหาอยู่ประมาณ 50 รายการ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาแก้ไขปัญหา รวมไปถึงนายกรัฐมนตรียังมอบนโยบายในการแก้ไขปัญหาราคาปุ๋ย พี่จะทำอย่างไรให้ปุ๋ยอินทรีย์ไปสามารถทดแทนปุ๋ยเคมีได้ ซึ่งไม่ใช่ว่าปัญหานั้นเกิดจากการบริหารจัดการที่ไม่ดี แต่เพราะเกิดต้นทุนการผลิตที่แพง
โดยนางออมสิน กุลรัตน์ เจ้าของแปลงนากล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น และดีใจที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรี ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนไหนรักเลยหวังดีกับชาวนาเท่า นายกรัฐมนตรี พร้อมนายกลุงตู่ให้คันเบ็ดซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับชาวนาไทย
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจังหวัดสิงห์บุรีเป็นจังหวัดเเรกที่มาเยือนในปีนี้ ตนรู้สึกยินดีทุกครั้งที่มา เเละได้มาขับเคลื่อนโครงการรักข้าว ข้าวรักษ์โลกเป็นการทำนาปรังในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่ 10 และได้พบปะกับประชาชน ทุกครั้งที่มาที่นี่ตนดีใจชื่นใจ นี่รุ่นแม่รุ่นลูก ความรักความสามัคคีนี่คือสังคมไทยเราคือแกนหลักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ทำให้อยู่ทุกวันนี้วันนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ตนก็ไม่อยากทำอะไรพี่อยู่เหมือนกัน ตนก็ทำเกือบทุกเรื่องซึ่งใช้เวลามากบ้างน้อยบ้าง
ส่วนเรื่องผนังกั้นน้ำ ตนคิดว่ารัฐบาลในสมัยที่ตนทำได้มากขึ้น หากมองด้วยความเป็นธรรมจะเห็นว่าหลายอย่างเปลี่ยนไปแล้ว บ้านเมืองเปลี่ยนไปเยอะการพัฒนาบางที เรากินเราอยู่เราใช้ เราไม่เคยย้อนกลับไปว่าก่อนหน้านี้ 5 ปี 10 ปีที่แล้วเป็นอย่างไร วันนี้มาถึงตรงนี้ได้อย่างไรลองมองกลับมาดู ตนรับฟังจากสส.ของท่าน ผมก็เรียนรู้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เรียนรู้จากการทำงานของท่านเรียนรู้จากปัญหาของท่าน ผมก็เกิดแนวคิดขึ้นมาว่า เราเคยมีประกาศมานานแล้วว่าจะเป็นแหล่งอาหารโลกอะไรในทำนองนี้ จะเดินหน้าไปสู่ตรงนั้นได้อย่างไร หากชาวไร่ชาวนายังไม่มีรายได้ที่เพียงพอต่อการทำการเกษตร นี่คือสิ่งที่เป็นโจทย์เรามีโอกาส รัฐบาลจะต้องหาทางให้เกิดความสมดุลให้ได้เพื่อเกิดความเข้าใจและความร่วมมือและร่วมกันแก้ไขปัญหาปัญหาทุกปัญหาแก้ไขได้แต่ใจเราสำคัญที่สุด ว่าจะแก้กันอย่างไร อาจจะเดินไปที่ช้าๆหากแก้ไปได้ร่วมมือกันก็แก้ไปได้เร็ว คนพยายามทำอย่างเต็ม ผมคิดว่าเดินมาได้ครึ่งทางแล้วหากเดินไปแล้วเซบ้างอะไรบ้างก็ขอให้มันตรงและก้าวไปให้เร็วที่สุดด้วยกลไกในลักษณะนี้ ตนก็ยินดีที่เกิดผลสัมฤทธิ์มาหลายพื้นที่
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่าผมรู้สึกสงสารเห็นใจชาวนาเนื่องจากขับรถวนไป 3 รอบก็ร้อนหัว หน้าที่ที่ผมรับผิดชอบก็ต้องแก้ไขปัญหาให้ท่าน วันนี้จะทำให้ทุกคนในประเทศไทย อยู่รอด ปลอดภัยและอยู่บนเศรษฐกิจพอเพียง นั่นคือความมั่นคงยั่งยืนทุกอย่างจะต้องดำเนินอย่างนี้เดินตามวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์ชาติที่ได้กำหนดไว้หลายปีมาแล้วหากไม่ได้แบบนี้ โครงการรักษ์โลกอะไรก็เลิกหมดกลับไปสู่ที่เก่าแล้วจะไหวหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าตนก็พร้อมที่จะแก้ไขปัญหา ยืนยันว่าไม่ได้ขัดแย้งกับใคร
โดยนายกรัฐมนตรียังกล่าวติดตลกว่า พูดแล้วก็เหนื่อย แต่ท่านก็เหนื่อยกว่าผมต้องทำงาน ตากแดด ผมก็คิดทุกวันคิด คิด คิด สมองก็คิดและถอดออกมาและเขียนออกมาวันๆเรื่องนี้ปัญหานี้ วันหนึ่งคิด 20-30 เรื่องแก้ไขปัญหาทำได้ไม่ได้ถ้าไม่ได้ก็ต้องบอกว่าไม่ได้เพราะอะไร หากได้ก็ได้แค่ไหน หากได้หมดเป็นไปไม่ได้หรอกบ้านเมืองเรา
พร้อมกับยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีมา 8 ปีไม่ได้ดูว่าเป็นของใคร ทุกจังหวัดคือคนไทยหรือไม่ ผมต้องดูแลคนไทยทั้งประเทศมากบ้านน้อยบ้างตามแผนงานโครงการที่ขอขึ้นมาแต่ต้องมีการตรวจสอบ ผมไม่เลือกปฏิบัติขึ้นอยู่กับความต้องการว่าเร่งด่วนมากน้อยแค่ไหน เกิดประโยชน์กับคนเท่าไหร่ หากจำเป็นก็ต้องทำให้เขา ขออย่างเดียวอย่าทุจริต อย่าทุจริตต้นขอย้ำเตือน ตนมีหน้าที่เป็นเอกรัฐมนตรีในการกำกับดูแลอนุมัติอนุญาตแต่ผมจะสั่งไว้เสมอว่าจะต้องโปร่งใสสุจริตและเป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ทางตรวจสอบแล้วมีการร้องเรียนสอบหมดตามกฎหมาย ทุกอย่างถ้านำไม่เห็นชอบอนุมัติก็จะไม่
คนทุกยุคทุกรุ่นทุกวัย ต้องทำให้มีความรักความสามัคคีมีความเข้าใจเดินหน้าไปพร้อมกันไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนได้ภายในวันเดียวหรือปีเดียว ผมอยู่มา 8 ปียังเปลี่ยนได้ไม่หมด ไม่ใช่ผมไม่อยากทำไม่กล้าทำแต่เราคือประชาธิปไตยใช่หรือไม่แต่ทำอะไรต่างๆก็ต้องรับฟังความคิดเห็นหากไม่เห็นชอบก็ทำไม่ได้ ผมไม่ได้บังคับบังคับไม่ได้ ขอให้ช่วยกัน ผมอาจพูดเยอะไปนิดนึงปีใหม่หยุดไปหลายวันแต่ผมไม่หยุด ติดตามงานทุกวัน เป็นผู้บังคับบัญชามีเรื่องหนักใจมีหลายเรื่อง จะทำอย่างไรไม่ให้คนแตกความสามัคคี ส่วนการจะปลูกป่า จะปลูกที่ไหนก็ได้ แต่เริ่มต้นจะต้องปลูกป่าในใจก่อน
โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรียังระบุอีกว่า การเดินทางมาในวันนี้เป็นครั้งแรกที่มาต่างจังหวัด มาสิงห์บุรีของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทุกคน เปิด YouTube เบอร์ที่เขาด่ากันไม่เกิดประโยชน์เพื่อเรียนรู้ทั้งจากไทยและต่างประเทศเพื่อเตรียมความพร้อม ตนขอให้กำลังใจทุกคน รู้ว่าลำบาก นี่คืออนาคตจะหาเงินที่ไหนมาดูแลตัวเอง ทุกอย่างต้องใช้เวลาวิธีการ นายกไม่เคยรักประชาชนน้อยกว่า รักมากกว่า 2 เท่า ต้องทนเพื่อเขา
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้พบปะกับประชาชน และถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง นายกไม่เคยหยุดคิด คิดแล้วค่อยทำไป วันนี้สุขภาพก็ดีขึ้นมาก แล้วเราจะอยู่อายุยืนยาว นี่คืออนาคตจะทำอย่างไรจะอยู่ได้อย่างไร ต้องดูแลตัวเอง พร้อมกับระบุว่าให้ถ่ายรูปกับรัฐมนตรีคนอื่นบ้างเนื่องจากมีรัฐมนตรีหลายท่านลงพื้นที่พร้อมกัน ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้าน นำสมุดมาให้นายกรัฐมนตรีเซ็น ได้เขียนข้อความว่า ลุงตู่สู้ๆ คนอินทร์บุรีเป็นกำลังใจให้ท่าน นายกอยู่คู่กับประชาชนชาวไทยตลอดปีได้ตลอดไป
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้มีทหารผ่านศึก จากจังหวัดต่างๆมาร่วมให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณ ตอนนั้นตนเห็นว่าไปพบคณะอะไรสักอย่างขึ้นเวที มีรูปอยู่เมื่อวานนี้ใครวะ ก่อนที่ทหารผ่านศึกจะตอบกลับว่าผมไม่ได้ไปครับ วันนี้ก็เพิ่มอะไรไปให้อีกไม่ใช่หรือ ยังเหลือเงินต่างๆมาตรการกองทุน ที่จะทำให้เพิ่มรู้ว่าลำบาก จากนั้นได้ร่วมถ่ายรูปกับกลุ่มทหารผ่านศึก และสู่สัญลักษณ์ I love you นำมือทุบอก ใครจะรู้หัวอกพวกเรา ไม่มีใครรู้ว่าพวกเราต้องไปเสี่ยง เดินไปรบทั้งถือปืนอยู่ชายแดนมีใครรู้บ้าง ซึ่งทหารผ่านศึกก็บอกว่า สู้ๆครับ และกล่าวว่า เขาบอกว่าไม่รู้จะมีถ้าเขาไปทำไม น้ำท่วมเรียกใครวะ น้ำท่วมก็ทหารไปช่วยทั้งหมด นี่ไปช่วยขนกระเป๋าอยู่สนามบินอีกแล้ว หลังจากนั้น ท่านนายกรัฐมนตรี ก็ได้ล้อมวง ร่วมรับประทานอาหารกับชาวบ้านเเบบเป็นกันเอง โดยเมนูที่ท่านนายกรัฐมนตรี ชอบคือ ไข่พะโล้ กับเเกงหน่อไม้ใส่ไก่ เเละไอศครีมกะทิ
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ นายกรัฐมนตรีใช้รถยนต์ Toyota Alphard สีดำหมายเลขทะเบียน กง 44 สิงห์บุรี ในการเดินทางครั้งนี้