สมุทรสาคร   ผบช.ภ.7แถลงผลตำรวจกระทุ่มแบนทลายแหล่งพักยาบ้ากว่า 1.5 ล้านเม็ด

สมุทรสาคร   ผบช.ภ.7 แถลงผลตำรวจกระทุ่มแบนทลายแหล่งพักยาบ้ากว่า 1.5 ล้านเม็ด เครือข่ายสมนึกสุราษฎร์ธานี คุมเข้มปราบปรามอาชญากรรมก่อนการประชุม APEC

เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 ที่สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร  พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7  พร้อมด้วย นายอาวุธ วิเชียรฉาย ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร (ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะฝ่ายปกครองจังหวัด) , พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7,พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมารอง ผบช.ภ.7,พล.ต.ต.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบช.ภ.7,พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7,พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7/หัวหน้าชป.ปส.ภ.7,พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูลผบก.สส.ภ.๗,พล.ต.ต.ดร.จักษ์ จิตตธรรม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร,พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ พ.ต.อ.สราวุธ ศรีชัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน,พ.ต.ท.วุฒิชัย ทวีกาญจนวัฒน์ รอง.ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน, พ.ต.ท.บัญชา เพียรไธสง สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน และ พ.ต.ต.วิษณุ ทองบุญ สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน, นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน,นายณัฐพล บุญทวี ปลัดอาวุโสอำเภอกระทุ่มแบนและนายจตุนันท์ จอมทัน ปลัดอำเภอกระทุ่มแบน ปปส.ภาค 7 เจ้าหน้าที่วิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนฯ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดจำนวน 2 คน คือ นายสรัล (ต้น)   อายุ 25 ปี (ผู้ต้องหาที่ 1) กับ น.ส.นัยนา (หนิง)  อายุ 40 ปี (ผู้ต้องหาที่2) พร้อมของกลางเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,593,020 เม็ด(796 มัด และ 5  ถุง )

โดยมีลักษณะกลมแบนมีอักษรภาษาอังกฤษ WY  ประทับอยู่ อีกด้านหนึ่งเรียบ ชนิดเม็ดสีส้ม บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน มีที่รูดปิด-เปิด ด้านบนแบบถุงยา ถุงละ 200 เม็ด(มีชนิดเม็ดสีเขียวปะปนอยู่ถุงละ 2 เม็ด) ห่อทับด้วยกระดาษสีขาว ประทับตราดาวสีน้ำเงิน 5 ดวง และอักษร kkk สีน้ำเงิน รัดด้วยยางรัดของสีแดง ห่อด้วยพลาสติกใส ห่อละ 10 ถุง บรรจุรวมกันอยู่ในกระดาษไขสีเหลือง มัดละ 5 ห่อ จำนวน 159 มัด โดยแบ่งบรรจุอยู่ในกระสอบสีขาวจำนวน 3 กระสอบ กระสอบละ 36 มัด และ บรรจุอยุ่ในถุงพลาสติกสีดำจำนวน 2 ถุง ถุงที่ 1 จำนวน 26 มัด ถุงที่ 2 จำนวน 25 มัด 1 ห่อ และอีก 5 ถุง นอกจากนี้ยังมีโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ oppo สีทองจำนวน  3 เครื่อง โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า)โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้พูดคุยและสอบปากคำในบางส่วนนั้น ก็ปรากฏว่า นางสาวนัยนาฯ ผู้ต้องหาที่ 2 ถึงกับเป็นลมเดินไม่ไหว ต้องพยุงกันเข้าไปและให้ดมยาดม ก่อนที่จะทำการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

           สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหานั้น ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการขนย้ายยาเสพติดของเครือข่ายของนายสมนึกฯ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 มาซุกซ่อนไว้ในห้องเช่า ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้เฝ้าสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง กระทั่งต่อมาเมื่อกลางดึกของวันที่ 12 พ.ย. ชุดสืบสวนฯ ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่ห้องเช่าดังกล่าว เมื่อไปถึงพบนายสรัล หรือต้นฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ซึ่งเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกคดียาเสพติด จำคุก 6 ปี และปรับ 450,000 บาท เพิ่งจะพ้นโทษได้รับการปล่อยตัวมาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 แต่ก็มากระทำผิดซ้ำ โดยตรวจสอบพบยาบ้าจำนวน 20 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวาของนายสรัล จากนั้นจึงทำการตรวจค้นภายในห้องพักดังกล่าว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อยู่ในกระสอบ 3 กระสอบ รวมยาบ้า 796  มัด มัดละ 2,000 เม็ด และอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน มีที่รูดปิด-เปิด ด้านบนแบบถุงยาอีกถุงละ 200 เม็ด จำนวน 5 ถุง (1,000 เม็ด)  รวมยาบ้าจำนวนทั้งสิ้น 1,593,000 เม็ด ซึ่งจากการสอบถามนายสรัล หรือต้นฯ ให้การว่ายาบ้าที่ตรวจพบภายในห้องพักนั้น น.ส.นัยนา หรือหนิงฯ (ผู้ต้องหาที่ 2) เป็นผู้ว่าจ้างให้ตนเฝ้า โดยตกลงค่าจ้างกันวันละ 1,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงไปที่หน้าห้องเช่า ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พบ น.ส.นัยนา หรือหนิงฯ (ผู้ต้องหาที่ 2) จึงจับกุมนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ข้อมูลเพิ่มเติมทราบว่า น.ส.นัยนา รอดสิน ได้ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นพี่สาวของนายสมนึก หรือกั๊ก  รอดสิน อายุ 27 ปี ที่ถูกจับกุมพร้อมพวกรวม 4 คน เมื่อวันที่  6  พฤศจิกายน  2565 โดยชุด ปส.4 พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)  ประมาณ  800,000  เม็ด ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ส่วนยาบ้าที่พบทั้งหมดนี้ เป็นส่วนที่เหลืออยู่   ซึ่งน้องชายได้นำมาเก็บซุกซ่อนไว้ที่โฮมสเตย์แห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลท่าเสา อ.กระทุ่มแบน ฯ  โดยให้พี่สาวเปิดห้องพักดังกล่าวเพื่อซุกซ่อนยาเสพติดของกลางจำนวน 1,593,000  เม็ด และว่าจ้างให้นายสรัล ใส่น้อย เป็นผู้เฝ้าของกลาง(ยาบ้า) รอขนย้าย แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน

  พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7  เปิดเผยว่า ตามที่ตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจสมุทรสาคร ได้มีการสืบสวนกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง เพราะพื้นที่ภาค 7 เป็นพื้นที่ๆ เป็นเส้นทางสายหลักในการลงสู่พื้นที่ภาคใต้ ดังนั้นจึงต้องมีการเพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังพื้นที่เส้นทางสายหลักทั้งถนนเพชรเกษม ถนนพระราม 2 ถนนสายชูโต ตลอดจนเส้นทางเรียบแนวชายแดน ตามที่รัฐบาลได้เน้นหนักให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ประกอบกับขณะนี้ใกล้ถึงช่วงของการประชุมผู้นำเศรษฐกิจ APEC จึงต้องมีการเพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น โดยทางฝ่ายสืบสวนมีการทำงานเชิงรุกอย่างหนักและมีการ RE-XRAY ทุกพื้นที่ทุกชุมชนทุกหมู่บ้านเพื่อจะหาผู้เสพนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ส่วนการปราบปรามได้ยกระดับความเข้มข้นในการเข้าปราบปรามผู้กระทำผิดทั้ง 8 จังหวัด 104 สถานี โดยสนธิความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งสืบทราบว่ามีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน แล้วทางฝ่ายสืบสวนของ สภ.กระทุ่มแบน ก็เข้าจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่รายนี้ได้ในที่สุด

พล.ต.ท.ธนายุตม์ฯ กล่าวอีกว่า สำหรับเครือข่ายยาเสพติดที่จับกุมได้นี้ มีทั้งผู้กระทำผิดรายใหม่และกระทำผิดซ้ำ ส่วนที่ว่ายาเสพติดทั้งหมดนั้นมีเส้นทางมาจากไหน และใครเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่แท้จริง หรือผู้ผลิตนั้น ทั้งหมดอยู่ระหว่างการขยายผลการจับกุมที่ขณะนี้ก็พอจะทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดมาดำเนินคดี