กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานสัปดาห์พะยูนแห่งชาติ (Dugong & Seagrass Week 2022) ร่วมพันธมิตรตั้งสถาบันวิจัยอนุรักษ์พะยูน ซึ่งวันนี้เป็นวันสูญเสียพะยูนน้อยมาเรียม ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในการลดขยะพลาสติก และไม่ทิ้งขยะลงสู่ทะเล
ที่โรงแรมธรรมรินทร์ธนา อ.เมืองตรัง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงานสัปดาห์พะยูนแห่งชาติ (Dugong & Seagrass Week 2022)
โดยมี นายไพบูลย์ โอมาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวต้อนรับ และมี นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้จัดงานสัปดาห์พะยูนแห่งชาติ (Thailand Dugong & Seagrass Week 2022) ระหว่างวันที่ 17 – 23 สิงหาคม 2565 โดยกิจกรรมภายในงานจะมุ่งเน้นการให้ความรู้ทางวิชาการ การถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของภาคส่วนต่างๆ ได้เห็นความสำคัญและเข้ามาร่วมแสดงบทบาทร่วมกันอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยเฉพาะ “พะยูน” ของไทย มีผู้สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ กรม ทช. ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการจัดตั้งสถาบันวิจัยเพื่อการอนุรักษ์พะยูนและสัตว์ทะเลหายาก ณ อ่าวสิเกา จังหวัดตรัง ร่วมกับสมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ซึ่งโครงการนี้นับเป็นโครงการใหญ่อีกหนึ่งโครงการใช้เวลาในการดำเนินโครงการกว่า 15 ปี ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ศูนย์รักษาและฟื้นฟูสัตว์ทะเลหายากที่เจ็บป่วย ศูนย์วิจัยความเป็นเลิศด้านพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก และศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง โดยตั้งเป้าหมายจำนวนพะยูนในธรรมชาติได้รับการคุ้มครอง ดูแล และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตนคงจะต้องตอกย้ำให้กับสังคมในสิ่งที่เป็นบทเรียนที่หลายคนยังจดจำกันไม่ลืม นับตั้งแต่เราได้สูญเสียพะยูน “มาเรียม” เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2562 จนกลายเป็นกระแสสังคมดังไปทั่วโลก จนถึงวันนี้ (17 สิงหาคม 2565) ก็ครบ 3 ปี พอดี ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่เคยหยุดทำงานเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูเพิ่มจำนวนพะยูนรวมถึงสัตว์ทะเลหายากในท้องทะเลไทย บทเรียนจากเศษขยะทะเลเพียงไม่กี่ชิ้นที่สร้างความสูญเสียอันใหญ่หลวงจนประเมินค่าไม่ได้ ต่อยอดสู่การอนุรักษ์สัตว์ป่าและสัตว์ทะเลหายากภายใต้ “มาเรียมโปรเจค” ผลความสำเร็จเราสามารถเพิ่มจำนวนเพิ่มจำนวนพะยูนในธรรมชาติจาก 250 ตัว เป็น 265 ตัว และตั้งเป้าหมายไว้ที่ 280 ตัว โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตรังที่นับว่าเป็นแหล่งพะยูนและหญ้าทะเลที่สมบูรณ์และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา ตนต้องขอชื่นชมพี่น้องประชาชนในจังหวัดตรัง นักท่องเที่ยว และภาคส่วนต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานทุกขั้นตอน แก้ไขปัญหาครอบคลุมทุกมิติตั้งแต่การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการปัญหาขยะทะเลตั้งแต่ต้นทางก่อนลงสู่ทะเล ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการจัดการแบบเต็มรูปแบบ และที่สำคัญวันนี้ ตนต้องขอขอบคุณสมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ที่ร่วมกันจัดตั้งสถาบันวิจัยเพื่อการอนุรักษ์พะยูนและสัตว์ทะเลหายาก เพื่อช่วยรักษา ดูแล อนุรักษ์และฟื้นฟูจำนวนพะยูนพื้นที่อำเภอปะเหลียน อำเภอหาดสำราญ อำเภอย่านตาขาว อำเภอกันตัง และอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง และพื้นที่ใกล้เคียง
มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง