รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ
ที่ห้องประชุมพระยารัษฎา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดตรัง เพื่อรับทราบสถานการณ์น้ำและเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงการวางแผนบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมรับทราบผลการปฏิบัติราชการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวต้อนรับ และสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดตรัง นายจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้รายงานว่าจังหวัดตรังมีประชากรจำนวน 639,708 คน ตั้งอยู่ในพื้นที่ 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบน และลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ ร้อยละ 97.90 ตั้งอยู่ในลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก
สำหรับลุ่มน้ำย่อยที่สำคัญ 2 ลุ่มน้ำ ประกอบด้วย แม่น้ำตรัง บริเวณต้นน้ำอยู่ในเขตอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราชและคลองปะเหลียน จังหวัดตรัง โครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการบรรเทาอุทกภัยที่ดำเนินการแล้วถึงปี 2565 จังหวัดตรังไม่มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 7 แห่ง สามารถเก็บกักน้ำได้รวม 25.122 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์จำนวน 122,462 ไร่ และมีโครงการแหล่งน้ำและอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กจำนวน 23 แห่ง สามารถเก็บกักน้ำได้ 2.105 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันสถานการณ์น้ำโดยรวมอยู่ในภาวะปกติ ยังไม่เกิดสถานการณ์อุทกภัย แต่แนวโน้มปริมาณน้ำมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ยังมีระดับที่ต่ำกว่าระดับตลิ่ง
นอกจากนี้ยังไม่เกิดสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในห้วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาในพื้นที่ลุ่มน้ำตรัง ยังคงประสบปัญหาพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจากปริมาณน้ำจากแม่น้ำตรังได้ไหลล้นเข้าท่วมพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองตรังและบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงทำให้ทรัพย์สินประชาชนได้รับความเสียหายและกระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งนี้จังหวัดได้เตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบโดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้บูรณาการร่วมกันวางแผนและกำหนดมาตรการในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ มอบหมายให้ฝ่ายปกครองประสานการปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายทหารและตำรวจในการสอดส่องดูแลเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบและประสบปัญหาความเดือดร้อนมาโดยตลอด พร้อมจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหา และวางแผนในการเตรียมความพร้อมในเรื่องเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน การเตรียมเครื่องจักรกลที่ใช้บรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงานฝ่ายพลเรือน หน่วยทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วขึ้น เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า วันนี้ได้ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ แผนงานโครงการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญ ทั้งระบบในภาคใต้และโครงการสำคัญเร่งด่วนในจังหวัดตรัง ซึ่งได้มอบหมายสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดไปดำเนินการโดยเร็ว โดยเฉพาะโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังได้ให้กรมชลประทานเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนกันยายนนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำพร้อมรองรับช่วงฤดูฝนที่จะมาถึง รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ในพื้นที่ภาคใต้ก็เช่นเดียวกันต้องบูรณาการแผนงาน เพื่อพัฒนาโครงการต่าง ๆ อย่างเป็นระบบจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้รองนายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ที่อ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้ว อำเภอห้วยยอด เพื่อติดการการบิหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้วให้กับประชาชน และลงพื้นที่ที่ประตูระบายน้ำ โครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง ที่ตำบลบางรักอำเภอเมืองตรัง พบปะพูดคุยกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
มนต์เจริญ ศรีมงคล จ.ตรัง