อยุธยา. คณะสงฆ์อำเภอพระนครศรีอยุธยาเปิดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม

คณะสงฆ์อำเภอพระนครศรีอยุธยาเปิดโครงการการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม แบบเรียนรวม ปีที่ 10 ของพระภิกษุนวกะ หรือพระใหม่ในพรรษา
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ อาคารปฏิบัติธรรม วัดใหญ่ชัยมงคล ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูน เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีเปิดโครงการการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม แบบเรียนรวมของ คณะสงฆ์อำเภอพระนครศรีอยุธยา ปีที่ 10 ของพระภิกษุนวกะ หรือพระใหม่ในพรรษา ส่วนใหญ่จะบวชกัน 1 พรรษา หรือมากกว่านั้น โดยมี พระพิพัฒนศาสนกิจวิธาน รองเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดท่าการ้อง กล่าวถวายรายงาน
การจัดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม เกิดจากการดำริและนโยบายของคณะสงฆ์อำเภอพรนครศรีอยุธยา เพื่อช่วยให้พระภิกษุ สามณรได้ศึกษานักธรรมในสำนักเรียน ที่มีมาตรฐาน โดยได้รับความร่วมมือ


จากพระสังฆาธิการทุกวัด ส่งพระภิกษุสามเณรมาเรียนจำนวนทั้งสิ้นจำนวน 100 รูป ประกอบด้วยนักธรรมชั้นตรี จำนวน 62 รูป นักธรรมชั้นโท จำนวน 20 รูป และนักธรรมชั้นเอก จำนวน 18 รูปโดยนิมนต์คณาจารย์ที่มีคุณวุฒิมาบรรยายถวายความรู้ โดยจัดการเรียนการสอนวันจันทร์ถึงวันศุกร์ หยุดวันพระ วันเสาร์-อาทิตย์. เวลา 13.00-15.30น.ณ อาคารเรียนวัดใหญ่ชัยมงคล ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


พระครูอนุกูลศาสนากิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยาเจ้าอาวาสวัดศาลาปูน กล่าวว่า สำหรับการบวชเป็นพระนวกะในระยะเวลาเพียงสั้นๆ ควรได้ศึกษาในพระพุทธ ศาสนา ต้องรู้จักปฏิบัติในศีล 227 ข้อ ที่สำคัญการเป็นพระใหม่ ไม่ใช่ว่าจะบวชเพื่อบิณฑบาตเท่านั้น แต่ต้องได้รับการอบรมศึกษาเล่าเรียนในทางพระพุทธศาสนาด้วย โดยเจ้าอาวาสแต่ละวัดจะต้องให้การอุปถัมภ์ดูแล หากปล่อยให้พระนวกะนั่งนอนเฉยๆ จะทำให้ไม่ได้รับความรู้และจะไม่รู้สึกรักพระพุทธศาสนา รวมถึงวัดที่อยู่จำพรรษาด้วย พระภิกษุนวกะที่เข้ารับการฝึกอบรมอยู่ ในการปกครองของคณะสงฆ์ อ.พระนครศรีอยุธยานั้น มีทั้งหมด 11 ตำบล 77 วัด 1 ที่พักสงฆ์ พระนวกะที่ส่งอบรมวิปัสสนากรรมฐานทั้งหมด 100 รูป และทางวัดวัดใหญ่ชัยมงคล โดยพระครูสิริชัยมงคล รองเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล รับผิดชอบด้านสถานที่ ส่วนการถวายความอุปถัมภ์ ส่วนต่างๆ นั้น เจ้าคณะในเขตปกครอง 77 วัด โดยมีพระพิพัฒนศาสนกิจวิธาน รองเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดท่าการ้องเป็นหลักได้ร่วมกัน พร้อมใจกันจัดให้มีโครงการนี้ ขึ้นป็นโครงการครั้งที่ 10 เพื่อจะเข้าถึงหลักธรรมทางพุทธศาสนา ได้รับประโยชน์จากการบวชที่แท้จริง นับว่าลาภอันประเสริฐของพระนวกะทุกรูป ที่ได้มีโอกาสสร้างบุญ สร้างกุศล อันยิ่งใหญ่ ให้แก่ตนเอง และแบ่งปันแก่ผู้ที่มีพระคุณทั้งหลาย ในช่วงระยะเวลาของการฝึกอบรมครั้งนี้

กอบกฤษณ์ ชูกลิ่น อยุธยา