พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลเวียนเทียน วัดสายไหม วัดสิงห์ ปทุมธานี ในวันอาสาฬหบูชา ถวายเป็นพุทธบูชา
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 ก.ค. 2565 ที่วัดสายไหม ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พระครูโสภณภัทรเวทย์ ดร.(หลวงพ่ออ๊อด) รองเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา เจ้าอาวาสวัดสายไหม จ.ปทุมธานี นำพระสงฆ์ พุทธศาสนิกชน สวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย สวดบท อิติปิโส ระลึกถึงพระธรรมคุณ ด้วยการสวด สวากขาโต และระลึกถึงพระสังฆคุณ ด้วยการสวด สุปะฏิปันโน และสวดคาถานมัสการพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 8 ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
พระครูโสภณภัทรเวทย์ ดร.(หลวงพ่ออ๊อด) รองเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา เจ้าอาวาสวัดสายไหม กล่าวว่าการน้อมนำคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำมาปฏิบัติเรื่องที่ง่ายที่สุด คือ การทำความดี ละเว้นความชั่วทั้งปวง ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว โดยเฉพาะการทำความดีที่ง่ายที่สุด คือ รักษาศีล 5 วันอาสาฬหบูชาคือวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรงประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5ได้แก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จนพระอัญญาโกณฑัญญะ ได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช 45 ปี วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 เป็นวันที่มีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบเป็นองค์รัตนตรัยครั้งแรกในโลก ซึ่งพระสงฆ์องค์แรกคือ พระอัญญาโกณฑัญญะ และปฐมเทศนาที่ทรงแสดงคือ ธรรมจักกัปวัตนสูตร หมายถึง พระสูตรว่าด้วยการยังธรรมจักรให้เป็นไป นั่นคือ ธรรมะของพระพุทธองค์เหมือนวงล้อธรรมที่ได้เริ่มเคลื่อนแล้วจากจุดเริ่มต้น เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไปได้รับทราบถึงประวัติความเป็นมา และตระหนักถึงความสำคัญในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา และ มุ่งมั่นปฏิบัติรักษาศีล 5 เพื่อการเสริมสร้างสังคมที่ดีมีคุณธรรมจริยธรรมอย่างยั่งยืน รวมทั้งเพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามและสืบทอดพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป
และที่วัดสิงห์ ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พุทธศาสนิกชนเวียนเทียนพร้อมจุดประทีป รอบอุโบสถเก่าแก่วัดสิงห์สามโคกถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ทั้งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าวัดปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชาและทำความดีให้ถึงพร้อมด้วย กาย วาจา ใจ และทำจิตใจให้หมดจดบริสุทธิ์ผ่องใส รวมทั้งร่วมกันสืบทอดหลักคำสอนพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ตลอดไป และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม