ปทุมธานี เททองหล่อรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาสวัดสายไหม

แห่ร่วมพิธีเททองหล่อรูปเหมือนพระสุนทรศีลาจาร(ทองใบ เตชปัญโญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสายไหมแน่นวัด

เมื่อเวลา 13.09 น.วันที่ 12 มิ.ย.2565 ที่ลานหน้าวิหารอุตตฺโมโสภที่ณภัทรอนุสรณ์ วัดสายไหม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พระครูโสภณภัทรเวทย์ ดร. (หลวงพ่ออ๊อด ปธานิโก)เจ้าอาวาสวัดสายไหม ได้ประกอบพิธีเททองหล่อรูปเหมือนพระสุนทรศีลาจาร(ทองใบ เตชปัญโญ) อดีตเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา และอดีตเจ้าอาวาสวัดสายไหม โดยมี พระราชสุทธิธรรมาจารย์ (สำอางค์ ตานทินโน) วัดประยูรธรรมาราม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสมชาย ตรีณาวงษ์ นายอำเภอลำลูกกา ประธานฝ่ายฆราวาส คณะสงฆ์ ข้าราชการ ประชาชน พุทธศาสนิกชน และศิษยานุศิษย์ ผู้มีจิตศรัทธาเข้าร่วมพิธี กันอย่างคับคั่ง


ภายในพิธี ประธานฝ่ายสงฆ์ และประธานฝ่ายฆราวาส คณะสงฆ์ นำทองคำ แผ่นทอง ที่พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญเขียนชื่อ วันเดือน ปีเกิด หย่อนลงกระบวย ก่อนเททองหล่อ โดยมีพระสงฆ์นั่งปรกอธิษฐานจิต จำนวน 5 รูป และพระสงฆ์เถระเจริญชัยมงคลคาถา เสร็จแล้วโปรยข้าวตอกดอกไม้และประพรหมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนถวายเครื่องไทยธรรมและกรวดน้ำรับพร


สำหรับการจัดพิธีเททองหล่อฯ ครั้งนี้ พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพ ทำบุญหล่อรูปเหมือนพระสุนทรศีลาจาร(ทองใบ เตชปัญโญ) อดีตเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา และอดีตเจ้าอาวาสวัดสายไหม เพื่อเสริมบุญ หนุนบารมี และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว
จากนั้น พระครูโสภณภัทรเวทย์ ดร. (หลวงพ่ออ๊อด ปธานิโก)เจ้าอาวาสวัดสายไหม ได้แจกวัตถุมงคลให้กับประชาชนและศิษยานุศิษย์ ที่มาร่วมพิธีกันแน่นวัด เอาไว้เป็นที่พึ่งทางใจในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ทางวัดสายไหมได้ตั้งจุดคัดกรอง และมีเครื่องมือวัดไข้ วางเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อล้างมือไว้ทุกจุดเพื่อความปลอดภัยของพุทธศาสนิกชน
“พระสุนทรศีลาจาร” (ทองใบ เตชปัญโญ) อดีตเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา และอดีตเจ้าอาวาสวัดสายไหม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นพระนักพัฒนา ท่านทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาต่อเนื่องเสมอมา


“พระสุนทรศีลาจาร” (ทองใบ เตชปัญโญ) มีนามเดิมว่า ทองใบ กลิ่นชื่น เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 25 ก.ย.2469 บ้านเลขที่ 24 หมู่ที่ 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ในวัยเด็กจนถึงวัยหนุ่มช่วยเหลือบุพการีประกอบอาชีพทำนา เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มี.ค.2492 ณ พัทธสีมาวัดสายไหม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยมีพระครูวิเศษธัญโสภิต วัดกลางคลองสี่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูธัญศีลคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์สว่าง รตนโชโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2494 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท พ.ศ.2543 สร้างศาลาอเนกประสงค์ ตั้งเต็กฮก ลักษณะทรงไทย ขนาดกว้าง 16 เมตร ยาว 22 เมตร ทำงานสนองกิจการคณะสงฆ์ในด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม และจัดตั้งกองทุนสงเคราะห์นักเรียน ตามโครงการของมหาเถรสมาคม รวมทั้งงานพัฒนาเสนาสนะภายในวัด อาทิ สร้างศาลาอเนกประสงค์ ตั้งเต็กฮก ลักษณะทรงไทย, สร้างกุฏิสงฆ์ ลักษณะทรงไทย 2 ชั้น ก่อสร้างกำแพงเขตสังฆาวาส คอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดความยาว 126 เมตร เป็นต้น


ท่านได้ดำเนินการก่อสร้างกุฏิเจ้าอาวาส ลักษณะทรงไทย และศาลาอเนกประสงค์ เป็นอาคารแบบไม่มีโครงหลังคา รวมไปถึงสร้างแพลอยน้ำสำหรับให้อาหารปลานอกจากนี้ ได้บูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถ และปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ บริเวณศาลาท่าน้ำริมคลองด้วย พ.ศ.2543-2547 ตั้งทุนสงเคราะห์นักเรียน ตามโครงการของมหาเถรสมาคม
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2502 เป็นผู้ช่วยทำงานเจ้าอาวาสวัดสายไหมและเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2506-2507 เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพสพผลเจริญ พ.ศ.2509 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดสายไหม พ.ศ.2516 เป็นเจ้าคณะตำบลลาดสวาย พ.ศ.2521 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2530 เป็นเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา และเป็นเจ้าอาวาสวัดสายไหม พ.ศ.2548 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พ.ศ.2550 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี


ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2515 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่พระครูวิเศษภัทรกิจ พ.ศ.2522 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท เจ้าคณะตำบลลาดสวาย พ.ศ.2530 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท เจ้าคณะอำเภอลำลูกกา พ.ศ.2544 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม
วันที่ 12 ส.ค.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสุนทรศีลาจาร    พระสุนทรศีลาจาร เป็นร่มธรรมองค์หนึ่งของชาวปทุมธานี แม้ในขณะที่ท่านมีอายุมาก แต่ด้วยมีจิตใจและพละกำลังที่แข็งแรง ยังสามารถที่จะปฏิบัติภารกิจงานสงฆ์ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง จึงมรณภาพด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2551 เวลา 11.20 น. ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สิริอายุ 82 ปี พรรษา 60