คอหวยแห่จดเลขเด็ดจากหลวงพ่อพูล ในวันเปลี่ยนผ้าครอง ก่อนถึงวันสำคัญ วันวิสาขบูชา ไหว้ครูบูรพาจารย์ สืบสานเจตนารมณ์หลวงพ่อ
เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน เมื่อวันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา อาตมาพร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ที่มีความรักความศรัทธาในพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข แห่งวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม ได้ร่วมกันทำพิธีเปลี่ยนผ้าครองสรีระสังขารของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ซึ่งเป็นกิจที่อาตมาและศิษยานุศิษย์ได้พร้อมใจกันปฏิบัติมานับแต่หลวงพ่อได้ละสังขารไป ถือเป็นการแสดงกตัญญูกตเวทิตาต่อหลวงพ่อเหมือนครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ ครั้งหลวงพ่อมีชีวิตอยู่ เราดูแลหลวงพ่ออย่างไร เมื่อหลวงพ่อจากไปแล้ว เราก็ปฏิบัติดังนั้น แม้ท่านจะเหลือเพียงสรีระสังขาร แต่สรีระสังขารนั้นก็คือสิ่งที่ระลึก สิ่งรวมใจของศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อซึ่งมีอยู่ทั่วฟ้าเมืองไทย และไกลถึงหลายประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อมีการเปลี่ยนผ้าครองในแต่ละปี ก็จะมีศิษยานุศิษย์จำนวนมากเข้าร่วมในพิธีกันอย่างคับคั่ง ประดุจงานรวมญาติรวมศิษย์ย่อม ๆ ก่อนที่อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะเหมือนวันรวมญาติครั้งใหญ่ คือ วันไหว้ครูบูรพาจารย์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันวิสาขบูชาของทุกปี
ในปีนี้ มีศิษยานุศิษย์จำนวนมากเข้าร่วมในพิธี อาทิ พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นายสมชาติ สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ (ก๋วยเตี๋ยวรางวัลมิชลิน) สุกัญญา มิเกล ฤทธิ ลือชา โต กะลา โดยเมื่อถึงเวลา 14.55 น. เป็นเวลาฤกษ์งามยามดี เริ่มพิธีเปลี่ยนผ้าครองสรีระสังขารหลวงพ่อพูล เจ้าหน้าที่ได้อัญเชิญสรีระสังขารหลวงพ่อพูลลงจากโลงแก้วยังเตียงที่จัดไว้ เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอน แต่ในขณะที่ลงมือเปลี่ยนผ้าครองนั้นเอง พบธนบัตรเหน็บอยู่ที่ประคดของหลวง พ่อ เมื่อตรวจสอบดูพบว่าเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท ทันใดนั้นเองก็มีผู้ร่วมพิธีซึ่งก็น่าจะเป็นคอหวยคอเลขเข้ามาจ้องมาดูธนบัตรใบนั้นทันที โดยเฉพาะส่วนที่เป็นหมายเลขประจำธนบัตร พบว่าเป็นหมายเลข 9 ค 5200575 เมื่อเห็นดังนั้นผู้ร่วมพิธีที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็พากันมามุง มาขอดูธนบัตรใบนั้นกันใหญ่ บ้างก็ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายไว้ ก็น่าจะนำไปคิดคำนวณถอดรหัสถอดเลขตามประสงค์ของตน เป็นที่ฮือฮามากในช่วงเวลานั้น
จากนั้นพิธีก็ดำเนินไปตามขั้นตอนปกติ กล่าวคือ ทำความสะอาดร่างด้วยแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อ จากนั้นนำวาสลีนทาเคลือบร่างเพื่อป้องกันเชื้อรา ระหว่างทำความสะอาดนั้น อาตมาสังเกตว่าสรีระสังขารของหลวงพ่อนั้นแห้งดี และเริ่มมีสภาพคล้ายหิน โดยเฉพาะช่วงหัวไหล่ซึ่งปรากฏเป็นสีทองอร่าม เป็นที่สนใจของผู้เข้าร่วมพิธีที่ได้พบเห็น อีกทั้งเล็บมือและเล็บเท้าของหลวงพ่อก็ยาวขึ้นกว่าปีที่แล้วอีกด้วย เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ร่วมพิธีทุกคน เมื่อชำระสรีระสังขารเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จัดการครองผ้าถวาย เชิญประดิษฐานยังโลงแก้วดังเดิม รวมเวลาทั้งสิ้นหนึ่งชั่วโมงครึ่งจึงแล้วเสร็จ
การเปลี่ยนผ้าครองสรีระสังขารหลวงพ่อพูลในวันนี้ ถือว่าเป็นการสำคัญก่อนที่จะถึงวาระอันสำคัญที่สุดของทางวัดไผ่ล้อม คือ การไหว้ครูบูรพาจารย์ ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2565 โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลนั้น ตั้งแต่ครั้งยังมีชีวิตอยู่ ท่านปฏิบัติมานับห้าสิบปี มิเคยขาด และท่านก็กำหนดให้ตรงกับวันวิสาขบูชาของทุกปี จนถึงวันนี้ก็ยังคงยึดตามสิ่งที่หลวงพ่อกำหนดไว้ไม่เปลี่ยนแปลง อาตมาเคยสงสัยตั้งแต่ครั้งอาตมาเป็นพระลูกศิษย์ติดตามหลวงพ่อว่าเหตุใดจึงต้องเป็นวันวิสาขบูชา หลวงพ่อพูลได้วิสัชนาจนกระจ่างว่า เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านเป็น “บรมครู” เป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด วันวิสาขบูชาเป็นวันที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า จึงจัดไหว้ครูขึ้นในวันนั้นเพื่อแสดงความเคารพต่อครูสูงสุดของพวกเราทุกคน
อาตมาได้รับคำตอบนี้ก็กระจ่างแจ้งแก่ใจไม่มีข้อสงสัยใด ๆ อีก สิ้นสงสัยก็ด้วยคำตอบนี้ เพราะที่ท่านพูดมานั้นเป็นความจริง พระพุทธเจ้าเป็นบรมครู ดังบทสรรเสริญพระพุทธคุณว่า “สตฺถา เทวมนุสฺสานํ” พระองค์ทรงเป็นครูผู้สั่งสอนของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย แม้พระองค์จะมีชีวิตอยู่เมื่อสองพันหกร้อยปีที่แล้ว ไม่มีใครเกิดทัน พระองค์ปรินิพพานไปแล้วหลายชั่วอายุคน แต่คำสั่งสอนของพระองค์ยังคงอยู่ นั่นคือยังมีพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าเป็นครูที่ยิ่งใหญ่ เพราะท่านรู้ความจริงด้วยพระโพธิญาณของท่าน เป็นความจริงที่รู้แล้วย่อมเป็นทางสว่าง เพราะพระองค์รู้ว่า ทุกข์นั้นมีอยู่จริง เพราะมันมีเหตุแห่งความทุกข์ ความรู้แบบนี้ เจ้าลัทธิต่าง ๆ ในชมพูทวีปก็รู้ดี ก็พูดกันทั้งนั้นว่าเวียนว่ายตายเกิดนี้เป็นทุกข์แท้ แต่พระโพธิญาณของพระองค์นั้นไปไกลกว่า พระองค์รู้ว่าทุกข์นั้นสามารถดับได้ และมนุษย์สามารถดับทุกข์ได้ด้วยตนเอง ความรู้นี้เกิดขึ้นแก่พระองค์ และพระองค์ก็มีพระมหากรุณามาก เพราะแม้จะเป็นสิ่งที่ยากยิ่งแก่ความเข้าใจถึงกับทรงท้อในเวลาแรก แต่พระองค์มิได้เก็บความรู้นั้นไว้แต่เพียงผู้เดียว ทรงตัดสินพระทัยสอนออกมาด้วยพระโอษฐ์ของพระองค์ ตั้งแต่ราชา พราหมณ์ มหาเศรษฐี ยาจก ไปจนถึงมหาโจร และที่สำคัญคือพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งได้สืบทอดคำสอนของพระองค์เรื่อยมากว่าสองพันปี จากมุขปาฐะ จดจำด้วยปากด้วยหู มาสู่การบันทึกด้วยตัวอักษร ผ่านเวลาอันยาวนานมาจนถึงพวกเราทุกคน ซึ่งก็ล้วนอยู่เป็นสุขด้วยพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เหตุฉะนี้แล้ว พระพุทธเจ้าจึงเป็นบรมครูผู้ให้วิชาไปสู่อิสรภาพทางจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคน
ดังนั้น การจัดพิธีไหว้ครูในวันวิสาขบูชา จึงเป็นสิ่งอันสมควรยิ่ง และเป็นสิ่งที่อาตมาจะยังคงสืบสานเจตนารมณ์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลสืบไป และในปีนี้ การครอบครูซึ่งถือปฏิบัติมาแต่ครั้งหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่นั้น จะครอบด้วยเศียรท้าวเวสสุวรรณ เทพเจ้าแห่งเงินตรา ราชาแห่งโชคลาภ เป็นท้าวจตุโลกบาลประธานแห่งหมู่ยักษ์เหล่าอสูร ตามคติแล้วหากได้ครอบเศียรท้าวเวสสุวรรณ ก็ย่อมล้างสรรพเคราะห์ร้ายให้สิ้นไป อาตมาจึงขอเจริญพรแจ้งข่าวสารงานบุญมา ณ ที่นี้ ขอเจริญพร