สมุทรสาคร เจ้าของสวนกล้วยไม้และผู้ประกอบการส่งออกครวญไม่มีหน่วยงานไหนเข้าช่วยเหลือเลย

สมุทรสาคร   เจ้าของสวนกล้วยไม้และผู้ประกอบการส่งออกครวญไม่มีหน่วยงานไหนเข้าช่วยเหลือเลย

นายสุภวรรษ  เกตุแก้ว  เจ้าของสวนกล้วยไม้ที่มีเนื้อที่กว่า20ไร่ อยู่ที่ ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน  จ.สมุทรสาคร  ได้กล่าวให้ผู้สื่อข่าวฝังว่า กล้วยไม้ที่จะส่งออกนอกได้มาตรฐานของการส่งออกจะต้องมีดอกที่บานแล้ว5ดอกขึ้นไปหรือบางทีก็อาจจะบาน6ดอกขึ้นไป  ถือเป็นมาตรฐานที่จะส่งได้แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าแล้ง ที่บริษัทต้องการดอกกล้วยไม้เยอะๆจะอยู่ที่บริษัทส่งออกจะสั่งตัดว่าบ้าน4ดอกก็ได้  ซึ่งจะลดมาตรฐานลงมาหน่อยแต่ที่สวยงามคือ5และ6ดอก  ในส่วนการตัดดอกก็จะตัดกันในช่วงเช้าส่วนออเดอร์ที่บริษัทจะสั่งก็จะสั่งล่วงหน้าในช่วงเย็นและเช้าเกษตรกรก็จะมาตัดดอกเพื่อส่งเข้าบริษัทอีกที   โดยมีกำหนดว่าจะสั่งไซด์เปอร์มากี่ดอกทางเราก็จะตัดส่งเข้าไปมีไม้สั้น  ไม้ยาว ตามภาษาเรียกครั้งละก็หลาย 1,000 ช่อ ต่อวัน

ปัญหาในช่วงก่อนโควิดช่วงนั้นการส่งออกก็ยังได้ดีตามระบบของการส่งออกเรื่อยเรื่อยมาแต่พอช่วงโควิดเข้ามาการส่งออกก็หยุดชะงักทำให้ชาวสวนเนี่ยถึงกับหยุดไปไหนไม่ได้บริษัทส่งออกก็ไม่สั่ง  ไม้ตลาดในประเทศไทยดอกก็บานเยอหมดแล้ว ไม้ตลาดก็ยังขายไม่ได้เลย  ก็ต้องจำใจตัดทิ้งอย่างเดียวในส่วนปัญหาจากโควิดนั้นมีเยอะมาก  ปัจจุบันนี้ก็ยังตัดได้ไม่เท่าที่ควรแม้กระทั่งในช่วงที่ ดอกออกเยอะๆมีไม้เยอะ บริษัทส่งออกก็ยังไม่สั่งเยอะเพราะยังไปได้ไม่เท่าที่ควรในส่วนของผลกระทบปัญหาจริงๆเลยก็คือต้นทุนของปุ๋ยยาเป็นสิ่งสำคัญมาก  ที่สวนประสบปัญหาก็คือหนึ่ง ราคาปุ๋ยยา ขึ้นราคามากแล้วเปอร์เซ็นต์ยามันไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ว่าฉีดเท่าไหร่เข้มข้นเท่าไหร่เพราะปัจจุบันใส่ปริมาณเท่าเดิมแต่แมลงกับไม่ตายในส่วนตัวผมที่ใช้ยาในปัจจุบันกับสมัยย้อนไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว ตัวยาที่ฉีดชนิดเดียวกันใส่ 30 ซีซีต่อน้ำ 50 ปี๊บยังสามารถฉีดฆ่าแมลงได้อยู่แต่ปัจจุบันนี้ปริมาณเท่าเดิมแต่แมลงไม่ตายจึงทำให้ประสบปัญหาอีกอย่างหนึ่ง

นายสุภวรรษ เจ้าของสวนกล้วยไม้ ยังกล่าวอีกว่าในส่วนของสวนที่ทำอยู่มีกล้วยไม้อยู่สองชนิด  ตัวแรกคือไม้ขาวสนาน  และไม้บอมโจแดง  เราจะตัดส่งช่อและเด็ดดอกส่งเข้าบริษัทส่งออกด้วยและในช่วงนี้มันเพิ่งผ่านช่วงเดือนเมษาที่ผ่านมาพอกล้วยไม้เข้าถึงหน้าแล้ง ดอกไม้ก็จะไม่ค่อยออกเกษตรกรจะประสบปัญหาความร้อนแต่ถ้าเรามีเตรียมการที่ดีมีปุ๋ยที่ดีการบำรุงรักษารดน้ำที่ดีก็ทำให้ดอกออกดีเราก็จะได้ราคาในช่วงนี้แต่ถ้า พอผ่านเดือนพฤษภาคมไปแล้ว ก็จะเข้าช่วงฤดูฝนราคาของดอกกล้วยไม้ก็จะถูกลงเพราะในช่วงหน้าฝนดอกกล้วยไม้ก็จะออกมากในทุกๆสวนจึงทำให้มีราคาถูกลดลง  ไม้ช่วงนี้แมลงก็เยอะจึงอยากจะให้รัฐบาลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องปุ๋ยยาที่เป็นต้นทุนสำคัญชาวสวนกล้วยไม้  ถ้าปุ๋ยยาแพงขึ้นมาต้นทุนการผลิตมันก็จะไปบวกลบกับค่าแรงคนงานกับค่าส่งออกตัวเฉลี่ยแล้วมันก็จะแทบไม่เหลืออะไร ได้แค่ประทังเลี้ยงลูกน้อง  นอกนั้นก็จะเป็นการจ่ายปุ๋ยยาที่จ่ายเยอะมากขึ้นจากปกติที่ใช้อยู่บางยี่ห้อที่ซื้ออยู่ขวดหนึ่ง 300 ถึง 350 แต่ตอนนี้ขึ้นเข้าไปอีกเป็นขวดละ 400 ถึง 450  ในส่วนของเรื่องขนส่ง ยังดีที่ทางบริษัทส่งออกมีรถมารับจึงไม่ค่อยกระทบเรื่องค่าน้ำมันในการขนส่งเพราะเมื่อเราตัดเสร็จทางบริษัทก็จะนำรถเข้ามารับในส่วนของผลกระทบตรงก็คือค่าไฟที่ต้องใช้ไฟปั้มรดน้ำและฉีดยากล้วยไม้    ทางเจ้าของสวนกล้วยไม้โอดครวญ

และทางด้าน นางสำราญ  ปานเทพอินทร์ เจ้าของบริษัท ปานเทพแพ็คเก็จจิ้ง จำกัด เลขที่ 69หมู่5 ต หนองนกไข่  อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร  ได้กล่าวถึงปัญหาการส่งออกช่วงโควิดระบาดและในช่วงปัจจุบันว่า   ประสบปัญหาช่วงโควิดใน3เดือนแรกคือไม่มีสายการบินบิน  บินน้อยบางทีเหมาลำไปก็ต้องแย่งกัน40- 50 บริษัทได้บริษัทละ1คิว2คิวก็จะไปได้คนละนิดติดประสบปัญหามากมันไม่คุ้มกับที่เราจะจ่ายไปแต่ก็ต้องไปบ้าง เพื่อจะได้ระบายจะของจากสวนจากบริษัทออกไปบ้าง  ประสบปัญหามากในช่วง3เดือนแรกของโควิดแรก   พอละลอก2มาก็ต้องแย่งกันอีกเหมือนเดิมเพราะยังบินไม่เต็มที่จะได้บริษัทละ2คิว3คิวแต่ปริมาณจำนวนกล้วยไม้มันเยอะกว่ามันก็ไปไม่ได้คือ 10 ส่วนไปได้แค่2ส่วน ปัจจุบันนี้ก็เริ่มจะดีขึ้นเริ่มจะไปได้  และในส่วนของการขนส่งที่ปัจจุบันน้ำมันแพงแล้วก็มีผลกระทบมากค่าใช้จ่ายสิ่งต่างๆเพิ่มขึ้นค่าน้ำมันแพงขึ้นมันจึงทำให้ประสบปัญหามากในการขนส่งเช่นต้องนำจากสวนมาที่บริษัทเมื่อเสร็จแล้วก็จากบริษัทไปส่งที่สนามบินอีกทอดหนึ่งค่าใช้จ่ายมันก็เพิ่มขึ้นไปอีกตามตัว

ทางบริษัทเราส่งกล้วยไม้ส่งออกไปต่างประเทศ  ในหลายประเทศประสบปัญหาช่วงโควิดคือส่งออกไม่ได้เครื่องไม่บิน  เจอปัญหามากในช่วงก่อนโควิดเราส่งออกได้ประมาณ 90% พอช่วงโควิดเหลือประมาณ 30% ของการส่งออกกล้วยไม้ก็ไม่รู้จะไปขายที่ไหน พอช่วงโควิดเริ่มเบาเราก็ส่งออกได้เพิ่มประมาณ 70% และในช่วงโควิดเราก็ต้องมาเปลี่ยนแปลงจากดอกจากกีบมาทำเป็น ร้อยมาลัยเพื่อให้ขายได้ทุกอย่างทุกส่วนของกล้วยไม้  ไม่เช่นนั้นจะขาดทุนหมดเพราะว่าไม่มีอะไรมารองรับเราเลยเช่นเปลี่ยน เอาใบไม้มาถักเสนอลูกค้าต่างประเทศเป็นเปียสายคาดเอวส่งไปขายที่ประเทศฮาวายได้  เราจึงต้องดิ้นรนปรับเปลี่ยนวิธีการในการส่งออกที่ผ่านมาก็ประสบปัญหาหลักใหญ่ๆคือการส่งออกไม่ได้  ในส่วนของระยะเวลา2ปีที่โควิดระบาดเราก็พยายามขายตลาดบ้างส่งในหลายๆที่หลายแห่งหลายประเทศ  ประเทศหนึ่งรับแบบนึง  อีกประเทศหนึ่งรับอีกแบบนึง เราก็จึงกระจายไปทั่วเพื่อที่จะประคองให้ลูกสวนอยู่ได้บริษัทเราอยู่ได้เราจะพัฒนาสิ่งต่างๆของกล้วยไม้มาทำ

 

ในช่วงปัจจุบันนี้เริ่มจะดีขึ้นเริ่มจะเปิดประเทศเครื่องบินมีบินมากขึ้นแล้วก็ส่งออกได้มากขึ้นอยากจะให้รัฐบาลมาช่วยดูแลผู้ประกอบการส่งออกบ้างเพราะทุกวันนี้ไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลพวกเราเลยเราส่งออกไม่ได้เขาก็ไม่เคยมาช่วยเหลือ  อยากจะให้เข้ามาช่วยดูแลบ้างตลอดระยะเวลา2ปีที่โควิดระบาดไม่มีหน่วยงานใดแม้แต่หน่วยงานเดียวเข้ามาช่วยดูแลผู้ประกอบการส่งออกหรือแม้แต่เกษตรกรที่ปลูกกล้วยไม้เลยจึงต้องช่วยเหลือดิ้นรนด้วยตัวเองกัน   บางบริษัทผู้ประกอบการส่งออกหลายแห่งต้องเลิกกิจการลงในช่วงโควิดเช่นบริษัทเล็กๆก็อยู่ไม่ได้ต้องปิดตัวลงกันจำนวนมาก  สวนกล้วยไม้บางสวนก็ต้องเลิกเพราะว่าส่งออกไม่ได้เช่นกันขายในตลาดประเทศไทยก็รองรับไม่ไหวบางสวนก็ปล่อยทิ้งตายเลยบางสวนเลิกสวนกล้วยไม้ปรับเปลี่ยนไปทำสวนแบบอื่นเลยบางแห่งต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาก็ต้องโดนยึดที่  ไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาดูแลเกษตรกรและผู้ประกอบการส่งออกเลยแม้แต่น้อย   ถ้าต่อจากนี้เปิดประเทศสนามบินเปิดมีคนเที่ยวกล้วยไม้เราก็ได้ส่งออกไปด้วย

กฤษฎิ์เชณฐ์  ดลชัยกรร์สกุล