ปลัดมหาดไทยเผย มท.1 ชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครองอำเภอเพ็ญในการบูรณาการขยายผลจับกุมผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี พร้อมเน้นย้ำผู้ว่าฯ นายอำเภอ ทั่วประเทศ ขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง พร้อมเชิญชวนประชาชนแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากสังคมไทยอย่างยั่งยืน
วันนี้ (5 พ.ค. 65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้รับรายงานจากนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เกี่ยวกับผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดครั้งใหญ่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 60 ล้านบาท โดยชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครองที่ทำการปกครองอำเภอเพ็ญ นำโดย ว่าที่ร้อยตรี รักชัย เลิศสุบิน นายอำเภอเพ็ญ นายกณิษฐ์พงษ์ พันธ์ชมภู ปลัดอำเภอเพ็ญ (ฝ่ายความมั่นคง) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ซึ่งสามารถทำการจับกุมผู้เสพในพื้นที่ 3 คน พร้อมยาบ้า 2 เม็ด นำไปสู่การจับกุม “นายตึ๋ง” พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 80 เม็ด และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ได้ที่บ้านห้วยวังโตน ตำบลสุมเส้า อำเภอเพ็ญ และได้ทำการขยายผลด้วยชุดล่อซื้อ และสามารถจับกุม “นายโอม” พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 2,249 เม็ด รถจักรยานยนต์ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ข้างวัดบ้านนาข่า (ตลาดผ้านาข่า) ตำบลนาข่า อำเภอเมืองอุดรธานี และได้ทำการขยายผลจับกุม “นายโต” พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 168,000 เม็ด ยาเค 1 กิโลกรัม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ซึ่งที่ทำการปกครองอำเภอเพ็ญได้ทำการควบคุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางลงบันทึกจับกุมและนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
นอกจากนี้ ที่ทำการปกครองอำเภอเพ็ญได้บูรณาการสนธิกำลังร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุดรธานี (กอ.รมน.จังหวัดอุดรธานี) ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองอุดรธานี ที่ทำการปกครองจังหวัดอุดรธานี ภายใต้การอำนวยการของ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุดรธานี นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พันเอก ธนาวีร์ วิชาชัย รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุดรธานี นายนพดล มามาก ปลัดจังหวัดอุดรธานี พลตำรวจตรี พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ทำการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญอีก 2 ราย คือ “นายโอ” และ “นายสอง” ซึ่งสามารถจับกุมได้ขณะทำการแพ็คของกลางเพื่อเตรียมจำหน่าย โดยพบของกลางหลายรายการ ได้แก่ ยาบ้า จำนวน 1,702,000 เม็ด ยาไอซ์ 2 กิโลกรัม กัญชาแท่ง 119 กิโลกรัม อาวุธปืน 9 มม. 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 15 นัด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ นิสสัน อัลเมร่า จำนวน 1 คัน ตามรายละเอียดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีและคณะได้มีการแถลงข่าวที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานีเมื่อวานนี้
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับทราบผลการปฏิบัติการขยายผลการจับกุมจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีได้พร้อมของกลางเป็นจำนวนมากในครั้งนี้ และแสดงความชื่นชมพร้อมให้กำลังใจชุดปฏิบัติการทั้งฝ่ายปกครองอำเภอเพ็ญ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุดรธานี พร้อมทั้งได้เน้นย้ำไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในการมุ่งมั่นบูรณาการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เป็นไปอย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง และจริงจัง ซึ่ง กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย (ศอ.ปส.มท.) ได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด ดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อันได้แก่ 1) มาตรการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เพื่อลดผู้ผลิต/ผู้ค้า (Supply side) แบ่งเป็น “พื้นที่ชายแดน” โดยผนึกกำลังสกัดกั้นตามแนวชายแดน จัดชุดลาดตระเวน ตรวจตรา เฝ้าระวัง สกัดกั้น ป้องกันการลักลอบนำเข้า/ลำเลียงยาเสพติด ควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ และ “พื้นที่ตอนใน” โดยบูรณาการการปราบปรามผู้ค้ารายย่อยในหมู่บ้าน/ชุมชน ด้วยการปิดล้อม ตรวจค้น ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ควบคู่กับมาตรการเชิงรุกของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และมาตรการจัดระเบียบสังคม และ 2) มาตรการป้องกันยาเสพติด เพื่อลดผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด (Demand side) ทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับโทษพิษภัยจากยาเสพติด ผ่านหอกระจายข่าวและทุกช่องทางในพื้นที่อย่างหลากหลาย พร้อมทั้ง Re X-ray บุคลากรกระทรวงมหาดไทยทุกระดับต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ปลอดภัยจากยาเสพติด และการรับเรื่องราวร้องทุกข์/ร้องเรียนเกี่ยวกับยาเสพติด และรับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ทุกแห่ง และสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567
“กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อนการดำเนินงานในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นต่อเนื่องผ่านกลไกทุกระดับ เพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากสังคมไทยอย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย โดยหากพี่น้องประชาชนมีเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด อันเป็นการตัดโอกาสในการกระทำความคิด ทั้งนี้ ผู้แจ้งจะได้รับการปกปิดข้อมูลเป็นความลับตามกฎหมาย และขอเน้นย้ำว่า “หากพี่น้องประชาชนในสังคมไทยช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลคนในชุมชน และแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ ปัญหายาเสพติดก็จะสามารถแก้ไขได้” อันจะส่งผลให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากสังคมไทยอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ /2565
วันที่ 5 พ.ค. 2565