วันที่ 2 ของ กรณีพระ-สามเณร-เด็กวัด ตรวจพบเชื้อโควิด รวมจำนวน 74 ราย แยกเป็นพระ จำนวน 2 รูป (เจ้าอาวาสและพระ) สามเณร 61 รูป และเด็กวัด จำนวน 11 คน และกลุ่มเสี่ยงสูง จำนวน 20 ราย ดังนี้
1.ใช้มาตรการ Bubble and Seal, เจอ จ่าย จบ, ปิดสถานที่วัดพระนอน หมู่ที่ 2 ตำบลทับยา ห้ามบุคคลเข้า-ออก ใช้พื้นที่ศาลาการเปรียญหลังใหญ่สำหรับผู้ติดเชื้อ จำนวน 71 ราย ส่วนอีก 3 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาลอินทร์บุรี ส่วนผู้เสี่ยงสูง จำนวน 20 ราย จะพักอาศัยแยกอาคาร ตามกุฏิพระ ซึ่งมีการแยกเป็นหลังๆ
2.โรงพยาบาลอินทร์บุรี (วัดอยู่ในเขตรักษารับผิดชอบของโรงพยาบาล) ได้จัดยา ถุงแดง อุปกรณ์วัดไข้ ให้กับพระภิกษุ สามเณรทุกรูป ซึ่งผู้ติดเชื้อมีอาการคล้ายไข้หวัด
3.มอบหมายให้ฝ่ายปกครอง และอสม. อยู่เวรอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัย โดย อสม.อยู่ช่วงกลางวัน ส่วนฝ่ายปกครองอยู่ช่วงกลางคืน รวมวันละ 3 ผลัดๆ ละ 2 คน รวมจำนวน 10 วัน
4. อาหารสำหรับพระภิกษุ สามเณร ระหว่างการรักษาจะรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ เบื้องต้นผู้อำนวยการโรงพยาบาลอินทร์บุรี และสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ได้บริจาคเงินท่านละ 2,000 บาท
5. จัดจ้างผู้ประกอบอาหารกรณีที่มีผู้บริจาคเป็นเงิน และกรณีมีเจ้าภาพเลี้ยงภัตตาหารพระภิกษุ-สามเณร-เด็กวัด ใช้เต็นท์บริเวณด้านหน้าศาลาการเปรียญ และจัดโต๊ะวางอาหาร เป็นพื้นที่ส่งมอบอาหาร
6. อาหารจัดเป็นถุงถวาย ซึ่งภายในศาลาใหญ่ มีห้องห้องน้ำ 2 ห้อง และติดกับศาลาใหญ่ 8 ห้อง
อาหารทางโรงพยาบาลให้จัดภาชนะจาน ชาม ช้อนของแต่ละราย ทานเสร็จล้างของตนเองภายในศาลามีห้องครัว มีที่ล้างถ้วยชาม มีพื้นที่แยกโซนล้างสำหรับผู้ติดเชื้อและผู้เสี่ยงกักตัว
7. การกำจัดขยะติดเชื้อ ถังแดงขอรับการสนับสนุนจากเทศบาลตำบลทับยา มาจัดวางบริเวณศาลาการเปรียญโดยทางโรงพยาบาลอินทร์บุรีจะเป็นผู้นำไปกำจัด ส่วนขยะทั่วไปอื่นๆ ให้คัดแยกใส่ถุงต่างหาก และมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนทิ้งทุกครั้ง และจัดพื้นที่แยกภาชนะ จัดวางไว้ด้านหลังของศาลาการเปรียญ โดยเทศบาลตำบลทับยาจะเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บขยะ
8. ฝ่ายปกครองได้นำแผงกั้นพื้นที่ไปกั้นอาณาเขตพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่พักอาศัยบริเวณเกาะบางพระนอน ใช้เส้นทางเลี่ยง ไม่ให้เข้าไปใช้ถนนภายในวัด สัญจรไปมา
9 เทศบาลตำบลทับยาได้นำยาฆ่าเชื้อไปฉีดพ่นบริเวณวัดพระนอนทุกจุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว