หลวงพี่น้ำฝน ให้คติธรรมโจรกลับใจนั้น มีอยู่จริง

โจรกลับใจ มีอยู่จริง

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน อันคำว่าโจรกลับใจนั้น ใคร ๆ ก็ว่าเป็นไปได้ยาก เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นโจรแล้ว คนทั้งหลายก็มักคิดว่าโจรเป็นโดยสันดาน โบราณว่าสันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก เป็นสันดานโจรแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ เรียกได้ว่าต้องตัดหางปล่อยวัดสถานเดียว

แต่จริง ๆ แล้วอาตมาไม่ได้เชื่ออย่างนั้น เพราะอาตมาเจอมาแล้วกับตัว ว่าทำไมโจรกลับใจมีอยู่จริง

ครั้งหนึ่งอาตมาเดินทางไปยังจังหวัดนครราชสีมา ในกิจงานบูรณะวัดผ่านศึกนุกูล จังหวัดนครราชสีมาปรากฏว่าอาตมาพบกับพระรูปหนึ่งในวัดนั้น เห็นทีแรกก็สะดุดตาทันที เพราะเป็นพระที่มีอัธยาศัยดีมาก ดีขนาดว่าถ้ามาช่วยงานที่วัดไผ่ล้อมได้ก็จะเป็นการดี พระรูปนั้นชื่อ “พระหมู” จึงชวนให้มาอยู่ที่วัดไผ่ล้อม พระหมูก็ยินดีเดินทางติดตามอาตมามายังวัดไผ่ล้อมด้วย

เมื่อเดินทางถึงวัดไผ่ล้อม ได้พูดคุยซักประวัติ อาตมาแทบหน้าหงายเพราะประวัติเขาโชกโชนมากจริง ๆ เรียกได้ว่ามีอดีตสีเทาจนไม่อาจจะนึกคิดได้ว่าพระหนุ่มอัธยาศัยดีรูปนี้จะเคยมีเบื้องหลังขนาดนี้มาก่อน อาตมาใช้คำว่า มีเรือนจำเป็นบ้าน ออกมาข้างนอกก็แค่ตากอากาศเฉย ๆ ใช่แล้วญาติโยม พระหมูนี่แหละ สมัยวัยรุ่นเข้าออกทัณฑสถานเป็นว่าเล่นด้วยคดีเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะแต่ก่อนมาพระหมูเป็นชาวยานนาวา อยู่ในชุมชนแออัดเสื่อมโทรม และมีเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องปกติ สมัยนั้นยาม้าระบาดมาก ยาม้าที่สมัยนี้เรียกว่ายาบ้านั่นแหละ พระหมูอยู่ในชุมชนแบบนั้น คบหาสมาคมเพื่อนฝูงในนั้นก็ไม่พ้นต้องตกเป็นทาสยาเสพติด จากที่เสพเป็นเม็ด พอต่อมามีวิธีการเสพแบบดูด ดูดม้า พระหมูก็ไม่พลาด ดูดม้าด้วย ติดจนถึงขั้นว่า ถ้ามีก็เสพ ไม่มีก็ไม่เสพ ต้องการกลิ่นยา แล้วจากผู้เสพก็พัฒนากลายเป็นผู้จำหน่าย สุดท้ายถูกตำรวจจับตามกฎหมาย

ถูกตำรวจจับ ข้อหามีไว้ในครอบครอง อยู่คุกไม่นานก็ได้ออกมา ออกมาก็อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบเดิม เพื่อนประเภทเดิม ๆ แถมมีความต้องการใช้เงิน ก็กลับเข้าวงจรค้ายาบ้าใหม่ แล้วชีวิตก็วนลูปอยู่แบบนั้นหลายครั้ง มีเรือนจำเป็นบ้าน มีนอกเรือนจำเป็นที่พักตากอากาศ จนสุดท้ายหลังพ้นโทษครั้งล่าสุด กลับมาอยู่บ้านเฉย ๆ อย่างว่างเปล่า ได้ไปทำงาน รปภ.อยู่พักหนึ่ง ก็รู้สึกเคว้งคว้าง เบื่อเต็มที ที่บ้านจึงให้ไปบวช พระหมูเลยได้ไปบวชครั้งแรกที่โคราช วัดถ้ำสองพี่น้อง

บวชอยู่สามปีแรกไม่เป็นไร พอปีที่สี่ พระหมูเอาชนะความอยาก ความต้องการไม่ได้ ก็หายามาเสพจนได้ แล้วกรรมเวรตรงนี้ เสพครั้งแรก ก็ตรงกับช่วงเขาเรียกตรวจปัสสาวะพอดี เท่านั้นก็เรียบร้อย พระหมูขึ้นฉี่ม่วง ต้องถูกจับสึกตามระเบียบ พอถูกสึกรอบแรก ก็ไปบวชใหม่อีกรอบหนึ่ง ปรากฏว่ามีหมายศาลมาเลยต้องสึกอีกรอบ ไปจัดการเรื่องคดีความอะไรให้เรียบร้อย พอบวชรอบที่สาม บวชที่วัดผ่านศึก จึงได้มาพบกับอาตมา

มาถึงจุดนี้ เป้าหมายของพระหมู คือ การปรับปรุงตนเอง กลับตัวกลับใจเสียใหม่ เพื่อแม่ ชดเชยเวลาที่ผ่านมา ยี่สิบสามสิบปีกับยาเสพติด พระหมูก็ไม่ขอกลับไปอีกแล้ว แม่ของพระหมูก็ดีใจมากที่พระหมูได้มาอยู่วัดไผ่ล้อม เห็นพระหมูอุดมสมบูรณ์ ทำหน้าที่ต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ก็นับได้ว่าพระหมูเป็นผู้ที่วัดอาศัย ไม่ใช่ผู้ที่อาศัยวัดอยู่ สอดคล้องต้องกันกับเจตนารมณ์ของอาตมาทุกประการ ทุกวันนี้พระหมูแข็งแรง ไม่มีเค้าของคนติดยาอีก ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า โจรกลับใจนี้มีจริง เพียงแต่เราต้องทำให้ถูกจุด แก้ให้ถูกปม ที่ผ่านมาพระหมูอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม พบแต่มิตรไม่ดี และไม่มีใครเอาใจใส่เห็นคุณค่า มาวันนี้พระหมูเป็นบุคลากรที่มีค่าของวัด ทุกเช้าต้องมาออกหน่วยคัดกรองหน้าวัด ซักประวัติผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการเจาะเลือดที่วัดของทางโรงพยาบาลนครปฐม ทำด้วยอัธยาศัยดีมีจิตบริการ พอเสร็จภารกิจก็ทำกิจกวาดลานวัด ทำความสะอาด ศึกษาพระธรรม เรียกได้ว่าพระศาสนาได้สร้างคนให้มีคุณค่า จาระไนให้กรวดหินสิ้นเศษเป็นเพชรงามได้

เอาจริงอาตมาไม่ใช่คนแรกที่พิสูจน์ว่าโจรกลับใจได้ พระพุทธเจ้าของเราท่านพิสูจน์มาก่อนใคร ดังเรื่องราวที่เรารู้จักกันดีคือ พระองคุลีมาล จอมโจรฆ่าตัดนิ้ว จอมโจรที่ใคร ๆ ต่างสะพรึงกลัวไปทั่วชมพูทวีป เรียกได้ว่าโดนหมายหัวทั่วอินเดีย แต่พระพุทธเจ้าทรงไม่หวั่นเกรงภยันตราย แม้องคุลีมาลจะควงดาบหวังเผด็จศึกพระองค์ พระองค์แสดงธรรมจนองคุลีมาลเก็บสติระลึกรู้ ยอมทิ้งดาบ และขอบวชเป็นพระสาวก ถ้าเป็นคนอื่น โจรเก้าร้อยเก้าสิบเก้าศพ ยังไงก็ไม่ให้บวช คงวิ่งหนีป่าราบก่อนใครเลยทีเดียว แต่นี่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าให้บวช ซึ่งเหมือนกับการประทานชีวิตใหม่ให้องคุลีมาล และองคุลีมาลเองนั้นก็พร้อมรับโอกาสนั้น ด้วยการเป็นสมณเพศที่ดี เมื่อเกิดใหม่ในอริยชาติ ดำรงในอริยมรรคแล้ว พระองคุลีมาลไม่เคยทำร้ายใคร เบียดเบียนใคร ผลจากคำสัตย์นี้เองที่ทำให้หญิงใกล้คลอดซึ่งท่านโปรดอยู่นั้นคลอดได้โดยง่าย ท่านได้เป็นอหิงสกะ ผู้ไม่เบียดเบียนใครสมชื่อเดิมแล้ว ดังคำอุทานของท่านว่า

“เราเป็นผู้ที่พระผู้มีพระภาคทรงฝึกแล้ว โดยไม่ต้องใช้อาญา ไม่ต้องใช้ศาตรา เมื่อก่อน เรามีชื่อว่าอหิงสกะ แต่ยังเบียดเบียน สัตว์อยู่ วันนี้ เรามีชื่อตรงความจริง เราไม่เบียดเบียนใครๆ เลย เมื่อก่อน เราเป็นโจร ปรากฏชื่อว่าองคุลิมาล ถูกกิเลสดุจห้วงน้ำใหญ่พัดไป มาถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะแล้ว เมื่อก่อนเรามีมือเปื้อนเลือด ปรากฏชื่อว่า องคุลิมาล ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ จึงถอนตัณหาอันจะนำไปสู่ภพเสียได้”

    สุดท้ายนี้ อาตมาขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ว่า ในเร็ว ๆ นี้ ทางวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม จะสร้างรูปพระองคุลีมาลเถระขึ้น เพื่อเป็นที่ระลึกถึงการกลับใจ การเริ่มต้นใหม่ในอริยมรรค ซึ่งอาตมาจะแจ้งให้ทราบเป็นลำดับสืบต่อไป ขอเจริญพร