นครปฐม รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดคลินิกตาสดใส โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง)
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 ที่บริเวณชั้น 3 อาคารเลิศประชารักษ์คลินิกตาสดใส โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) อ.สามพราน จ.นครปฐม
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เป็นประธานกล่าวเปิดคลินิกตาสดใส โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) โดยมี นายแพทย์อภิชัย สิรกุลจิรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ในนามของคณะกรรมการจัดงาน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงาน พร้อมด้วย ศาสตราจารย์แพทย์หญิงวณิชา ชื่นกองแก้ว ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย และนายแพทย์ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ ที่ปรึกษาราชวิทยาลัยจักษุแห่งประเทศไทย และคณาจารย์ด้านจักษุวิทยาและแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธีเปิด
ซึ่งปัจจุบันโครงสร้างประชากรไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ และจากสุขภาพของผู้สูงอายุที่เสื่อมถอยตามวัย พบว่าผู้สูงอายุกว่าร้อยละ 70 มีปัญหาทางสายตา การมองเห็นไม่ชัดเจน ปัญหาโรคทางตาในผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง การตรวจคัดกรองปัญหาสุขภาพตาตั้งแต่เริ่มต้นหรือระยะแรก ทำให้สามารถป้องกันรักษาโรคทางตาได้ง่ายขึ้น ทั้งยังส่งผลต่อการพยากรณ์โรคที่ดี ลดจำนวนผู้ป่วยหนัก และภาระของระบบสุขภาพโดยรวมลงได้ ในวัยผู้ใหญ่ วัยทำงาน การคัดกรองพบโรคทางตาที่เป็นสาเหตุของภาวะสายตาเลือนราง และตาบอดที่ป้องกันได้ และในวัยเด็กที่มีภาวะสายตาผิดปกติ หากคัดกรองพบในระยะแรกจะป้องกันภาวะตาขี้เกียจ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะสายตาเลือนรางในผู้ใหญ่ต่อไปได้
โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เป็นโรงพยาบาลที่ให้บริการผู้ป่วยเฉพาะทางด้านจักษุครบทุกสาขา ได้เล็งเห็นความสำคัญของการเข้าถึงการรักษา การคัดกรองปัญหาสุขภาพตาตั้งแต่เริ่มต้น จึงได้จัดตั้งคลินิกตาสดใสขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการให้บริการตรวจคัดกรองโรคตาในบุคคลทั่วไป ผู้สูงอายุ ผู้ใหญ่ และเด็ก อีกทั้งเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย เพื่อให้ได้มาซึ่งองค์ความรู้ใหม่ๆใช้ในการดูแลผู้ป่วยโรคทางตา และเป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมนักทัศนมาตรศาสตร์ และการให้บริการทางวิชาการด้านการแพทย์ และสาธารณสุข
โดยการจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากกรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ชมรมจักษุสาธารณสุขไทย สำนักงานประกันสังคม คณะทัศนมาตรศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยรังสิต คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสื่อมวลชน