‘ม.มหิดล’ เผยผลวิจัย สนามกอล์ฟเมืองไทย สุดปัง!

‘ม.มหิดล’ เผยผลวิจัย สนามกอล์ฟเมืองไทย สุดปัง! เร่งสร้างเครือข่ายกอล์ฟทัวร์นาเม้นท์ ยกระดับสู่ระบบนิเวศทางธุรกิจ
…………………………………………………..
ที่สนามกอล์ฟแหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล คันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี สมาคมผู้บริหารสนามกอล์ฟภาคตะวันออก (EGA Thailand) ร่วมกับ, มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานเสวนาเรื่อง “การยกระดับโซ่อุปทานการท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟของไทย” เพื่อยกระดับกีฬากอล์ฟ และการท่องเที่ยว ซึ่งจะก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ หลังผ่านพ้นวิกฤตการณ์โรคโควิด 19 ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ (สกสว.)


โดยได้รับเกียรติจากตัวแทนสมาคมผู้บริหารสนามกอล์ฟภาคตะวันออก, ตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ภาคเอกชนกลุ่มบริษัท สปอร์ต แมนเนจเม้นท์กรุ๊ป จำกัด


ดร.รัชพงษ์ กลิ่นศรีสุข ที่ปรึกษาโครงการวิจัยมหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในผู้เข้าร่วมเสวนา เปิดเผยว่าทิศทางและแนวทางการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันอุตสาหกรรมกอล์ฟของประเทศไทยในอนาคต ควรจะใช้รูปแบบ “Coopetition” ซึ่งเป็นลักษณะการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสนามกอล์ฟ และระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและความสามารถในการแข่งขันร่วมกัน
นอกจากนั้นควรมีการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟทั้งระบบเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องสามารถใช้เพื่อวางแผนยุทธศาสตร์นำไปสู่ข้อมูลสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมกอล์ฟของประเทศไทยให้เกิดความแข็งแกร่งและเติบโตร่วมกัน


ทั้งนี้จากการประเมินทางเลือกและการตัดสินใจซื้อของนักกอล์ฟที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สามารถแบ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟได้ 7 กลุ่ม ได้แก่ Passive Golfer 2, Lifeful Golfer, Crazy Golfer, True Leisure Golfer, Business Golfer, Corporate Tournament Golfer และ Practice for Tournament Golfer ซึ่งพบว่า มี 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม True Leisure Golfer กลุ่ม Business Golfer และ กลุ่ม Tournament Golfer เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายสูง ยังเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเป็นจำนวนน้อย เนื่องจากประเทศไทยยังไม่สามารถรองรับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของกลุ่มคุณภาพสูงเหล่านี้ได้ดี


ทั้งที่จริงๆ แล้ว ประเทศไทยมีองค์ประกอบการท่องเที่ยวที่ครบครัน แต่ยังขาดการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายถึงยังไม่สามารถเชื่อมโยงความร่วมมือและกิจกรรมต่างๆ ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทั้งตลอดโซ่อุปทาน
เบื้องต้นผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล จะได้เสนอแนวทางการยกระดับโซ่อุปทานการท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟของไทย คือ การสร้างความร่วมมือของผู้ที่เกี่ยวข้อง, การจัดทำการตลาด, การวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการให้เกิดการตัดสินใจเลือกเดินทางมายังประเทศไทยและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับนักท่องเที่ยวเชิงกอล์ฟ


โดยจะกำหนดเป้าหมายผลักดันกีฬากอล์ฟเป็นอุตสาหกรรม ไม่ใช่เพียงบริบทการท่องเที่ยว เป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กอล์ฟของประเทศในทุกภาคีให้ไปในทิศทางเดียวกัน และสนับสนุนการเกิดระบบนิเวศทางธุรกิจ พร้อมยกระดับกีฬากอล์ฟ รวมถึงการท่องเที่ยวในโอกาสต่อไป