สุพรรณบุรี รมช.ประภัตรเปิดสายพานการผลิตชูผลสำเร็จโครงการยกระดับแปลงใหญ่
ที่ จังหวัดสุพรรณบุรี นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานประชาสัมพันธ์โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ณ โรงบรรจุภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ของกลุ่มแปลงใหญ่ผัก หมู่ 13 ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีนายปรีชา ทองคำ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายวีรศักดิ์ บุญเชิญ เกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนราชการและเกษตรกรในพื้นที่ให้การต้อนรับและร่วมเปิดงาน
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ภายใต้แผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 นั้นเป็นหนึ่งในแผนงานที่รัฐบาล มุ่งเน้นในการสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก ในระดับท้องถิ่นและชุมชน เพื่อให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตภาคเกษตรหรือปรับเข้าสู่เกษตรแปลงใหญ่ และเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งเป็นที่น่ายินดี ว่าโครงการดังกล่าวสามารถยกระดับระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ได้เป็นอย่างดีจะเห็นได้จากการที่กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ สามารถเพิ่มศักยภาพการผลิตโดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ร่วมกับการทำการเชื่อมโยงตลาดสินค้า รวมถึงการพัฒนาคุณภาพ/มาตรฐานสินค้า ส่งผลให้เกิดการต่อยอดด้านคุณภาพมาตรฐาน เพิ่มคุณภาพผลผลิต สามารถลดต้นทุนการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า เพิ่มช่องทางการตลาด และเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืน
ด้านนายวีรศักดิ์ บุญเชิญ เกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า จังหวัดสุพรรณบุรี มีกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่เสนอความต้องการเข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด จำนวน 24 แปลง งบประมาณรวม 66,005,129 บาท ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 3 แปลง งบประมาณ 8,684,600 บาท และกรมการข้าว จำนวน 21 แปลง สำหรับการจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่ และเชื่อมโยงตลาด ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ผลสำเร็จของการดำเนินงานโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ณ โรงบรรจุภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ของกลุ่มแปลงใหญ่ผัก หมู่ที่ 13 ตำบลบ่อสุพรรณ อำเภอสองพี่น้อง ซึ่งมีสมาชิก จำนวน 85 ราย พื้นที่รวม 320 ไร่
ปัจจุบันเกษตรกรแปลงใหญ่ผักกลุ่มนี้ได้รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แบบมีส่วนร่วม PGS จำนวน 85 ราย มาตรฐานอินทรีย์ Organic Thailand จำนวน 45 ราย มาตรฐาน GAP จำนวน 6 ราย การได้รับงบประมาณสนับสนุนจากโครงการฯ ทำให้กลุ่มแปลงใหญ่สามารถลดต้นทุนการผลิตพืชผัก เพิ่มคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐาน 320โดยตั้งเป้าหมายในปี 2565 จะมีสมาชิกที่ได้การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand รวม 80 ราย อีกทั้งยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ปริมาณผลผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด มียอดการจำหน่ายผลผลิต มูลค่ากว่า 3 ล้านบาทต่อปี และเพิ่มช่องทางการจำหน่าย โดยการเปิดหน้าร้านของกลุ่ม พร้อมมุ่งทำธุรกิจเพื่อสังคม สนับสนุนให้คน กลุ่มคนในองค์กร เติบโตไปพร้อมกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็ง เป็นพลังของชุมชนในระดับฐานรากอย่างแท้จริง
สำหรับการจัดงานครั้งนี้มี อสม.มาตั้งจุดคัดกรองทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมภายในงานต้องแมสก์ หน้ากากอนามัย ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ตามมาตรการป้องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี