กาญจนบุรี ยิ่งจับยิ่งเยอะทะลักเข้ามาแรงงานต่างด้าวเมียนมาหลบหนีเข้าไทย
เพื่อปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 .ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ได้บูรณาการร่วมกันกับ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ได้รับการประสานจาก ชุดปฏิบัติการข่าวที่ 2 กองกำลังสุรสีห์ ว่าจะมีการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง จึงจัดกำลังร่วมกับ ร้อย.ตชด.136, สถานีตำรวจภูธรเมือง ฝ่ายปกครอง และ เข้าทำการจับกุมผู้กระทำผิด ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522) และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ตามมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 สัญชาติเมียนมา จำนวน 31 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 15 คน บริเวณชายป่า หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
จากการสอบถามขั้นต้น ทราบว่าเดินทางมาจาก พะโค ยะไข เมาะลำไย ทวาย ประเทศเมียนมา . ผ่านช่องทางธรรมชาติเข้ามาในประเทศไทย โดยจะเข้าไปทำงาน ในพื้นที่ กรุงเทพ จังหวัดสมุทรสาคร และ จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้น ไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส
บุคคลต่างด้าว จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวบอกว่า พวกตนเดินทางมาจากเมืองพะโค พวกเดินทางเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติแนวชายแดนบ้านทิคิ ประเทศเมียนมา ซึ่งติดกับ บ้านพุน้ำร้อนของประเทศไทย จะไปทำงานที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยยังไม่รู่ว้าเป็นงานอะไรเมื่อไปถึงแล้วจะมีคนพาไปทำ ไม่รู่จักนายหน้า และยังไม่ได้จ่ายเงิน แต่จะถูกหักค่าเดินทางตอนได้ทำงานแล้วคนละ 17,000 – 20,000 บาท การเดินทางเข้ามาในครั้งนี้ใช้เวลาเดินทาง 4 วัน ในแต่ละวันนอนพักกลางป่า และไม่ได้กินข้าวมา 3 วันแล้ว ส่วนโทรศัพท์ของพวกตน นายหน้าชาวเมียนมายึดไปหมด เพื่อไม่ให้พวกตนติดต่อกับทางญาติได้
จากากรสอบถามแรงงานชาวเมียนมาที่พูดไทยได้ทราบว่า ค่านายหน้าที่นำพาเข้ามาในประเทศไทย พวกตนได้ให้ญาติที่เมียนมายืมเงินนายทุนที่ประเทศเมียนมาเพื่อจ่ายค่านายหน้าให้กับชาวเหมียนมา และเดินทางเข้ามาในประเทศไทยหลังจากนั้น เมือได้งานทำแล้วพวกตนต้องส่งเงินไปให้กับญาติอยู่ในประเทศเมียนมาเพื่อจ่ายให้กับนายทุนที่ยืมมา ส่วนเรื่องค่ายหัวในงานนำพาในประเทศไทย ตนไม่รู้เพราะว่า นายทุนชาวเมียนมาคุยกับผู้นำพาชาวไทยเอง
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้หลบหนีเข่าเมืองทั้งหมดทำประวัติ พร้อมทั้งแจกข้าวกล่องและน้ำ ก่อนที่จะส่งดำเนินการตามขั้นตอน ต่อไป
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี