สุพรรณบุรี ชาวสุพรรณสุดทนรวมตัวมอบอำนาจทนายฟ้องชลประทานปล่อยน้ำท่วม

สุพรรณบุรี  ชาวสุพรรณสุดทนรวมตัวมอบอำนาจทนายฟ้องชลประทานปล่อยน้ำท่วม
ที่บริเวณท่าข้าวศรีสุพรรณ 444 หมู่ 4 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มีชาวบ้านจากอำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อนกว่า 100 คนมารวมตัวกันยื่นเอกสารหลักฐานพร้อมหนังสือมอบอำนาจให้ทีมทนายความ เพื่อดำเนินการฟ้องศาลปกครองเรียกค่าเสียหายจากกรมชลประทานที่บริหารจัดการน้ำไม่เป็นธรรมปล่อยให้น้ำท่วมบ้านเรือน บ่อกุ้ง บ่อปลา ไร่ นา เสียหายชาวบ้านจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน


นายอุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่าวันนี้ตนมาในฐานะประชาชน ไม่ได้มาในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรี วันนี้ได้นำทีมทนายความมารับเอกสารหลักฐานและหนังสือมอบอำนาจจากประชาชนเพื่อเป็นผู้แทนฟ้องศาลปกครอง และฟ้องคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายจากการกระทำผิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ จากกรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการบริหารจัดการน้ำที่ผิดทำให้ อำเภอบางปลาม้า อำเภอสองพี่น้อง ตลอดจนอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ได้รับผลกระทบ พี่น้องชาวสุพรรณอยู่กับน้ำมา 2 เดือนกว่าทนไม่ไหวแล้วเพราะน้ำที่ระบายมาหาเรามันเยอะเกินกว่าเหตุ ดังนั้นเราจะรีบดำเนินการฟ้องภายในวันอังคารหน้านี้ จะเป็นการกระตุ้นกรมชลประทานและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลับมาพิจารณาว่าสิ่งที่ทำอยู่ปัจจุบันนี้ถูกหรือผิด อย่างเช่นการสูบน้ำจากทุ่งลงสู่แม่น้ำท่าจีนซึ่งน้ำก็หมุนกลับไปที่เดิม แล้วจะเสียค่าน้ำมันอยู่ทำไม


ดังนั้นคำฟ้องที่เราจะฟ้องในวันอังคารหน้านี้จะมีผลทำให้กรมชลประทานกลับมานั่งพิจารณาว่าตัวเองทำผิดหรือทำถูก จากการที่ตนได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินดูสถานการณ์น้ำท่วมร่วมกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคิดว่าความเสียหายค่อนข้างสูงไม่สามารถประเมินได้ดังนั้นต้องให้พี่น้องประชาชนรวบรวมข้อมูลความเสียหายจริงๆว่าเสียหายเท่าไหร่ ประชาชนที่มีความประสงค์และสามารถจะร่วมฟ้องเรียกค่าเสียหายนอกจากพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว อาจจะลามไปถึงพื้นที่จังหวัดนครปฐม ที่ได้รับผลกระทบ


อยากฝากไปถึงกรมชลประทานเป็นคนบริหารจัดการน้ำ มีอะไรก็อ้างว่าคณะกรรมการจัดการน้ำขอให้ท่านมีความคิดนิดหนึ่งถึงความเดือดร้อนอย่าไปคิดว่าจะต้องรักษาเขตเศรษฐกิจเยี่ยงชีวิตตัวเองนั้นไม่ใช่ถ้าเรามีการบริหารจัดการน้ำที่ถูกต้องตนเชื่อว่าครั้งนี้จังหวัดสุพรรณบุรีจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นนี้ ถ้าเฉลี่ยน้ำกันไปเชื่อว่าพี่น้องเราจะไม่ได้รับความทุกข์ดังนั้นกรมชลต้องกลับมานั่งพิจารณาการบริหารัดการของตนเองว่าสิ่งที่ตนเองทำไปวันนี้ถูกหรือไม่ในอนาคตถ้ายังทำอยู่อีกตนคงไม่ฟ้องเรื่องแพ่งอย่างเดียวคงต้องใช้มาตรา 157 เข้ามาบังคับใช้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้ามิชอบ


ทางด้าน นายมานิตย์ พุทธจรรยา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.องครักษ์ และนายรังสรรค์ ปิยะจันทร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.องครักษ์ อ.บางปลาม้า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ เริ่มลดลงวันละ 1-2 เซนติเมตร ส่วนสภาพความเสียหายในพื้นที่นั้นมากมีทั้งบ่อกุ้ง บ่อปลา บ้านเรือนประชาชน เฉพาะพื้นที่หมู่ 6 เกษตรกรเกือบทั้งหมู่บ้านประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้ง มีพื้นที่มากถึง 2,000 กว่าไร่ขณะนี้ถูกน้ำท่วมเสียหาย ทั้งหมด 100 เปอร์เซน ที่มาวันนี้เพื่อร้องขอเรื่องการเยียวยาเงินบ่อกุ้ง บ่อปลา ที่ผ่านมาเราได้รับเงินชดเชยค่าเสียหายไร่ละ 11,700 บาทแต่จำกัดแค่คนละ 5 ไร่ซึ่งไม่ตรงกับค่าความเสียหายจริงซึ่งเราอยากได้ค่าเสียหายตามจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเกษตรกรแต่ละรายที่ลงทุนไปแล้วและได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่ารายละ 100,000 บาทถึงหลายล้านบาท หลังจากนี้พอน้ำเริ่มลดความเสียหายต่างๆก็จะเพิ่มมากขึ้นเช่นบ้านปูนก็เริ่มแตกร้าว ต้องหาเงินมาซ่อมบ้าน และน้ำที่ท่วมขังก็เน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี