จับต่างด้าวหนีมาทำงานเสียค่านำพาคนละ25,000 บาท
10 ตุลาคม 2564 เวลา 11.00 น
เพื่อป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดและแรงงานต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้ามาในประเทศสนองตามนโยบายของรัฐบาล ทางพันเอกศรัณย์ รอดบุญธรรม ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 ให้กองบังคับการควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 ทำการลาดตระเวน ทางพันโท ฐานพัฒน์ แสงนาคผล ผบ. บก2 ให้ ร้อยเอก ศรัณย์ หินเธาว์ นำกำลังเข้าปฏิบัติการช่องทางเดินเพื่อสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติดและขบวนการค้ามนุษย์ลักลอบเข้าพื้นที่ประเทศไทย และพบแรงงานต่างด้าวหนีมาจากประเทศเมียนมา เมื่อ เวลา 21.00 น คืนวันที่ 9 ตุลาคม 2564 ทางกองบังคับการควบคุมที่ 2 ฉก.ม.4 จัดชุดปฏิบัติการ 1 ชุด จำนวน 6 นาย ลาดตระเวนแล้วทำการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกั้นชั่วคราว บริเวณพื้นที่ถ้ำตับเตา เป็น เส้นทางหลบหรืออ้อมไม่ผ่าน ด่านตรวจบ้านผาหงษ์ ตำบล ศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั้งเวลา 23.00 น ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ตรวจพบกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินมายังเส้นทางที่ เจ้าหน้าที่ทหารตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดกั้น อยุ่ เจ้าหน้าที่ได้จึงแสดงตนเพื่อขอทำการตรวจค้น พบเป็นชาวต่างด้าว จำนวน 6 คน ผู้หญิง5 คน ชาย 1 คน
จากการสอบถามบุคคลดังกล่าวให้การว่าได้เดินทางมาจากเมืองตองจี ประเทศเมียนมา ซึ่งมี นาย อ่องคาย ชาวเมียนมา เป็นผู้นำพา โดยได้จ่ายเงินให้ คนละ 25,000 บาทซึ่งใช้เส้นทางช่องธรรมชาติ พื้นที่ อำเภอฝาง ข้ามมายังประเทศไทย โดยเมื่อมาถึงฝั่งประเทศได้มีรถมารอรับ และส่งยังบ้านหนองเบี้ย ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการฯ และรอให้ค่ำมืดเพื่ออ่อมผ่านด่านตรวจ ขึ้นรถไปทำงานยังกรุงเทพฯ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจอุณหภูมิร่างกายทุกคนไม่มีใครเป็นไข้หรือร่างกายผิดปกติ และนำน้ำยาฆ่าเชื้อพ่นยังสัมภาระเพื่อฆ่าเชื้อโรคและเชื้อโควิด19 เมื่อตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงนำตัวแรงงานต่างด้าว ทั้ง6 คนที่เข้ามาในราชอณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ส่งตัวให้เจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ได้ทำการดำเนินคดีตามกฏหมายแล้ว
อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่
นายสำราญ แสงสงค์ ข่าว