สมุทรปราการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เตรียมความพร้อมรองรับน้ำท่วม มั่นใจระบบบริหารจัดการน้ำภายในที่มีประสิทธิภาพ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.)มีระบบเพื่อป้องกันน้ำท่วม และมีพื้นที่รองรับน้ำสูงกว่า 4.7 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยประสานการสูบระบายน้ำสอดคล้องกับคลองโดยรอบลงสู่ทะเลไม่กระทบชุมชน สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องไม่กระทบการให้บริการ
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ผสภ.) พร้อมด้วยนาย กีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่(สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) (รญว.) ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมป้องกันน้ำท่วม โดยผสภ. กล่าวว่า ทสภ.ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้พื้นที่หลายจังหวัดได้ประสบกับภาวะน้ำท่วม ขณะที่ประกาศฉบับล่าสุดของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้เตือนให้เฝ้าระวังปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 5-9 ตุลาคมนี้ ในบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จากอิทธิพลของร่องมรสุมและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้คาดว่าในระยะนี้จะมีปริมาณฝนมากขึ้น แต่ด้วยระบบการบริหารจัดการป้องกันน้ำท่วมจากภายนอก การมีพื้นที่รองรับน้ำระดับสูงและการระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ของ ทสภ.และไม่กระทบการให้บริการทั้งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าอย่างแน่นอน
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของระบบป้องกันน้ำท่วมจากภายนอกนั้น ทสภ.มีเขื่อนดินล้อมรอบซึ่งด้านบนสันเขื่อนมีความกว้าง 3 เมตร ฐานสันเขื่อนกว้าง 37 เมตร สูง 3.5 เมตร ยาว 23.5 กิโลเมตร สามารถป้องกันระดับน้ำจากภายนอกได้สูง +2.27 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งในส่วนนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพความแข็งแรงของเขื่อนดินเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่ามีความแข็งแรง สามารถป้องกันน้ำจากภายนอกไม่ให้เข้ามาภายในพื้นที่ ทสภ. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับพื้นที่รองรับน้ำของ ทสภ. มีทั้งส่วนของคลองโดยรอบและคลองภายใน รวมถึงอ่างเก็บน้ำซึ่งเป็นแก้มลิงทั้งหมด 6 แห่ง ทั้งหมดมีศักยภาพกักเก็บน้ำได้ 4.7 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีการบริหารกักเก็บน้ำไว้ระดับสูงในฤดูแล้ง แต่พร่องน้ำให้ต่ำลงเพื่อเพิ่มพื้นที่รับน้ำในฤดูฝน โดยการบริหารจัดการส่วนนี้มีการทำงานประสานกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการพร่องน้ำในคลองภายใน ทสภ. ให้อยู่ระดับต่ำกว่าระดับน้ำทะเลที่ -1.6 เมตรเพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับน้ำไว้พร้อมแล้ว
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ส่วนของศักยภาพการระบายน้ำนั้น ทสภ. มีสถานีสูบน้ำ 2 สถานี ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ ฝั่งตะวันออก และทิศใต้ ฝั่งตะวันตก ของท่าอากาศยาน ซึ่งแต่ละสถานีจะมีเครื่องสูบระบายน้ำ ขนาด 2 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จำนวน 4 เครื่อง รวมทั้งหมด 8 เครื่อง โดยจะเปิดใช้งาน 6 เครื่อง ศักยภาพการสูบระบายน้ำรวม 12 ลูกบาศก์เมตร/ วินาที
ขณะเดียวกันการสูบและระบายน้ำนั้นมีความสอดคล้องกับคลองภายนอก เช่น คลองหนองงูเห่า คลองหนองปรือ คลองบางโฉลง จากคลองทั้งหมดจะเชื่อมกันไปสู่ระบบคูระบายน้ำริมทะเล ซึ่งกำกับดูแลโดยทางกรมชลประทาน ทำให้การระบายน้ำของ ทสภ. ไม่สร้างผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม แม้ด้วยระบบการบริหารจัดการภายในของ ทสภ. จะให้ความเชื่อมั่นในระดับสูงว่าปริมาณน้ำฝนที่จะเพิ่มขึ้นในระยะนี้ จะไม่ก่อปัญหาน้ำท่วมในบริเวณพื้นที่บริการ ขณะเดียวกันทสภ. ก็ยังคงมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นกรมอุตุนิยมวิทยาซึ่งให้ข้อมูลการพยากรณ์อากาศ เพื่อการบริหารจัดการปริมาณน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ กรมชลประทานเพื่อประสานการระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเป้าหมายสำคัญคือการรักษาความต่อเนื่องในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ผู้ขนส่งสินค้า และดูแลชุมชนโดยรอบ ทสภ. ไปพร้อมกัน
************************************
วิวรรธน์ ยั่งยืนเตชานนท์ สมุทรปราการ 0916986925