รมช.ท่องเที่ยวกัมพูชาเยือนประเทศไทย

ดร.ซก นักการเมืองรุ่นใหม่ ที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน เข้าพบ ชวน หลักภัย กระชับสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เผยหลังผ่านโควิด พร้อมเดินหน้าเศรษฐกิจ สร้างเมืองเสียมเรียบใหม่ สุดทันสมัย
……..

วันที่ 23 กันยายน 2564 รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ได้ทำหน้าที่ประสานและนำ ดร.ซก ซกกรัดทะยา (Dr.Sok Sokrethya) ที่ปรึกษาส่วนตัวของท่านนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซน ผู้แทนรัฐบาลกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เข้าพบ ฯพณฯ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ณ ห้องรับรอง ชั้น 2 สัปปายะสภาสถาน เกียกกาย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลของสองประเทศ นอกจากนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักการเมืองรุ่นใหม่ของกัมพูชากับประเทศไทย รวมทั้งเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแสวงหาความร่วมมือในด้านต่างๆ ของผู้นำสองประเทศในช่วงที่ทั้งสองประเทศเกิดโควิดและหลังจากสถานการณ์โควิดผ่านไปแล้วด้วย

ดร.ซก ซกกรัดทะยา นับเป็นรัฐมนตรีท่านแรกจากประเทศกัมพูชาที่มาเยือนประเทศไทยในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บรรยากาศการพบปะของผู้นำทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองมากเป็นอย่างมาก ผู้นำของทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการบริหารจัดการประเทศอย่างสร้างสรรค์ ท่านรัฐมนตรีจากกัมพูชาได้นำความระลึกถึง ความเคารพและความปรารถนาดีอย่างสูงจากท่านนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซนมายังท่านประธานรัฐสภาชวน หลีกภัย

ท่านประธานรัฐสภาไทยได้กล่าวตอบและได้แสดงความชื่นชมเป็นอย่างยิ่งต่อท่านนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซนว่าสามารถยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจของกัมพูชาได้อย่างรวดเร็วจนน่าทึ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา

ท่านรัฐมนตรีจากกัมพูชาได้เรียนว่าท่านนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซนมีนโยบายและความมุ่งมั่นอย่างสูงที่จะส่งเสริมให้นักการเมืองรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่แล้วสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดินให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ท่านรัฐมนตรียังได้กล่าวชื่นชมท่านชวน หลีกภัยว่าเป็นนักการเมืองในอุดมคติของท่านมาอย่างยาวนาน

ท่านชวนกล่าวตอบว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แล้ว ท่านได้ตัดสินใจเข้าสู่การเมืองโดยการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรและได้รับความกรุณาจากประชาชนเลือกให้ท่านเข้ามาเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรติดต่อกันมายาวนานเป็นเวลาถึง 52 ปี ท่านกล่าวว่าหากไม่มีระบอบประชาธิปไตย ท่านซึ่งเป็นเพียงลูกชาวบ้านที่ยากจนและมาจากจังหวัดเล็กๆที่ภาคใต้ และต้องมาอาศัยอยู่ที่วัดถึง 8 ปีคงไม่มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่รับใช้ประเทศชาติและประชาชนได้ ท่านเล่าว่าในสมัยที่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีได้มีการก่อตั้งกองทุนกยศ. เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาสามารถมากู้ยืมเพื่อใช้ในการศึกษาเล่าเรียนต่อ แต่ระบอบประชาธิปไตยนั้นต้องการคนดีที่ไม่โกง เมื่อท่านมาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านจึงได้กำชับกับท่านเลขาธิการรัฐสภาว่าจะรับบุคลากรที่กู้ยืมกองทุนกยศ.แล้วชำระเงินคืนเท่านั้น

ท่านชวน หลีกภัย เล่าว่าท่านเคยไปชมนครวัตรมาแล้วหลายครั้งกับเพื่อนๆ และท่านยังมีความปรารถนาที่จะกลับไปชื่นชมมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ของกัมพูชาแห่งนี้อีกในอนาคต ท่านกล่าวว่ามรดกโลกแห่งนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาชื่นชมประวัติศาสตร์ที่งดงามของกัมพูชาตลอดไป ท่านรัฐมนตรีหนุ่มจากกัมพูชาได้เรียนว่าเนื่องจากเมืองเสียมราฐเป็นเมืองมรดกโลกจึงไม่สามารถสร้างอาคารสูงได้ ดังนั้นท่านนายกรัฐมนตรีฮุนเซนจึงได้วางแผนที่จะสร้างเมืองเสียมราฐใหม่ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเสียมราฐเดิมออกไปราว 55 กิโลเมตร เมืองใหม่แห่งนี้จะเป็นสมาร์ทซิตี้ที่มีที่อยู่อาศัยที่ทันสมัย มีโรงพยาบาลและสถาบันการศึกษาตลอดจนธุรกิจร้านค้าที่ทันสมัยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในอนาคต รวมทั้งจะมีสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ด้วย ท่านผู้นำหนุ่มจากประเทศกัมพูชาได้เรียนเชิญท่านชวน หลีกภัยให้กลับไปเยือนกัมพูชาอีกครั้งในฐานะแขกของรัฐบาล

ท่านชวนหลีกภัยได้แสดงความชื่นชมที่ประเทศไทยกัมพูชาสามารถควบคุม โควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในอาเซียนด้วยกันท่านรัฐมนตรีจากกัมพูชาได้เรียนว่าจนถึงขณะนี้ประเทศกัมพูชาได้ฉีดวัคซีนซิโนแว็กซ์ให้แก่ประชาชนไปแล้วราว 98% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ และประเทศกัมพูชาจะเปิดประเทศในเดือนตุลาคมนี้

ท่านประธานชวน หลีกภัย ได้ฝากความเคารพอย่างสูงไปยังสมเด็จพระราชินีแห่งสมเด็จพระเจ้านโรดมสีหนุ ซึ่งเป็นพระมารดาของพระมหากษัตริย์กัมพูชาองค์ปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบัน และท่านนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซน

สุดท้ายท่านประธานชวน หลีกภัย ได้ขอให้ทั้งสองประเทศซึ่งเป็นประเทศบ้านพี่เมืองน้องมาอย่างยาวนานในประวัติศาสตร์ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขตลอดไป