หลวงพี่น้ำฝน ชี้ กินกระชาย กินเพื่อกัน ไม่ต้องแก้
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐมเจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน มาถึงตอนนี้อาตมาเชื่อว่าสิ่งที่อยู่คู่บ้านของคนไทยแต่ละหลัง เห็นจะเป็นยาฟ้าทะลายโจร สมุนไพรยอดนิยมติดลมบนมานานด้วยสรรพคุณต้านไวรัส แต่ก็มีคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ว่า ต้องกินอย่างระมัดระวัง ขืนตะบันกินเข้าไปมาก ๆ ตับจะพัง เพราะเป็นยาแรง บางคนยังไม่เป็นอะไรแต่ก็ไปกินตามฉลากข้างขวดว่า กินสามเวลา ครั้งละ 3-4 เม็ด ก็กินเข้าไปตามนั้น ผลสรุปคือตับพัง พอติดโควิดขึ้นมา หมอจะให้ยาแผนปัจจุบันก็ให้ไม่ได้ เพราะว่าติดค่าตับ กลายเป็นแบบนั้นไปอีก
เรื่องนี้ก็สอนให้รู้ว่า สมุนไพรนั้นมีคุณและโทษในเวลาเดียวกัน สมุนไพรถ้าใช้มากเกินไป หรือใช้ไม่ถูกวิธีก็จะเป็นพิษ อาตมาเชื่อว่าผู้อ่านหลายคนน่าจะเคยดูละครจีน หรือละครเกาหลีย้อนยุคที่แทบทุกเรื่องจะต้องมีฉากฝ่าบาทประทานยาพิษให้ใครสักคน บางเรื่องระบุว่าเป็น “น้ำฟู่จื่อ” ซึ่งจริง ๆ แล้วฟู่จื่อก็เป็นสมุนไพรในทางการแพทย์แผนโบราณ แต่ถือว่าเป็นยาแรงมากที่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง แพทย์แผนจีนจะใช้ในเวลาฉุกเฉินจริง ๆ เท่านั้น เพราะว่าฟู่จื่อนั้นมีพิษมาก จึงนำไปใช้เป็นยาพิษในละครนั่นเอง ทีนี้หากนำมาในการรักษาโรค แพทย์จะต้องนำมาขจัดพิษเสียก่อนเพื่อลดความเป็นพิษ มิฉะนั้นก็จะเป็นการมอบยาพิษให้แก่ผู้ป่วยนั่นเอง
ถ้าเป็นสมุนไพรไทย อาตมานึกถึงสลอด เวลาใครด่าทอแช่งชักหักกระดูกก็มักจะพูดกันว่าอยากเอาสลอดให้คนนู้นคนนี้กิน สลอดนี้เป็นพืชมีพิษ แต่ก็ใช้เป็นยาได้ การใช้สลอดเป็นยา โดยเฉพาะจากส่วนเมล็ดนั้นจะต้องขจัดพิษเสียก่อน มิฉะนั้นสลอดจะทำพิษ พิษจากน้ำมันในเมล็ดสลอดนั้นรุนแรงมาก จะทำให้อาเจียนและถ่ายท้องอย่างรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ทีเดียว ถ้าจะต้องใช้สลอดเป็นยาระบาย ก็ต้องใช้อย่างระวังคู่กับยาที่คุมฤทธิ์ของสลอดไม่ให้ทำอันตราย
กลอย เป็นพืชมีหัวใต้ดิน โบราณใช้หัวใต้ดินเป็นยาแก้เถาดาน (อุจจาระค้างแข็งในท้อง) แต่หัวใต้ดินนั้นถ้าเอามากินเลยทันที ถึงตายได้ในทันที เพราะมีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ถึงกับชักและทำให้เสียชีวิตได้
หรือแม้แต่พืชที่เป็นกระแสฮือฮาเมื่อไม่นานมานี้ คือ กัญชา กัญชานั้นเรามักจะรู้จักกันในฐานะพืชมีสารเสพติดอย่างหนึ่ง แต่ว่าโดยตัวของมันนั้นก็เป็นสมุนไพร ใช้ผสมตัวยาตามตำรับโบราณต่าง ๆ หลายขนาน ช่วยลดปวด ทำให้เจริญอาหาร กินอิ่มนอนหลับ แต่ที่เป็นสารเสพติดเพราะว่าฤทธิ์ยานั้นมันแรง กินมากไปจะทำให้ประสาทหลอน เสียสติ หัวเราะไม่หยุด อันนี้คือความจริงข้อหนึ่งของสมุนไพรที่ทุกคนต้องเข้าใจ
ดังนั้น ที่พูดมายืดยาวนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ฟ้าทะลายโจรก็เป็นเช่นนี้ ฉะนั้นจะกินโดยไม่ระวัง ประเภทว่ากินกันไว้ก่อน กินเผื่อไว้ก่อนนี้ไม่ได้เลย อันตราย
แต่ถ้าเราอยากจะกินยาสมุนไพรสักอย่างหนึ่งเพื่อรักษาร่างกายให้มีภูมิต้านทานต่อโรค อาตมาก็แนะนำเป็น “กระชาย” กระชายเป็นพืชสมุนไพรใกล้ตัวที่หลาย ๆ คนได้รับประทานในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ เพราะมันอยู่ในเครื่องแกงไทย อย่างแกงป่า หรือน้ำยานั่นเอง กระชายเหลือง (กระชายขาว) ธรรมดาที่เรากินกันนี่แหละ มีสรรพคุณทางยาเป็นอย่างดี ในเบื้องต้นคือเป็นยาขับลม เสริมภูมิต้านทานจากเชื้อหว้ดได้ ในทางวิทยาศาสตร์มีการทดลองเบื้องต้น พบว่าสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสโควิดได้ ทางราชทัณฑ์ก็นำกระชายมาต้มให้ผู้ติดเชื้อในเรือนจำดื่ม ก็ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพร ก็มีข้อควรระวัง เพราะกระชายเป็นสมุนไพรมีฤทธิ์ร้อน หากกินถี่หรือมากเกินไปก็อาจทำให้มีอาการของธาตุร้อนในร่างกาย เช่น ร้อนใน แผลในปาก ไปจนถึงใจสั่นได้ด้วย อีกทั้งเด็ก และสตรีมีครรภ์ เป็นกลุ่มที่ไม่ควรรับประทานกระชาย เพราะอาจมีปัญหาเกี่ยวกับตับและไตได้
ที่วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม อาตมาได้เปิดร้าน “กาแฟบุญ” เพื่อสมทบทุนกองทุนหลวงพ่อพูลเพื่อการศึกษา ซึ่งกองทุนหลวงพ่อพูลนั้นมีมาอย่างยาวนานเพื่อสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการศึกษา ในช่วงโควิดนี้อาตมาได้จำหน่ายน้ำสมุนไพร เป็นน้ำกระชายสามสูตร สูตรกระชายสกัดเย็น ช่วยขับลมแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ท้องร่วงท้องเสีย ป้องกันโรคกระดูกพรุน แก้โรคกระเพาะอักเสบ กระตุ้นการทำงานของสมอง รวมถึงกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศได้อีกด้วย สูตรกระชายน้ำผึ้งมะนาว นอกจากสรรพคุณตามปกติของกระชายแล้ว สรรพคุณจากน้ำผึ้งมะนาวยังช่วยดับกระหายคลายร้อน ทำให้สดชื่น แก้ไอ ลดอาการเจ็บคอ บำรุงผิว ช่วยในการย่อยอาหาร เป็นตัวช่วยลดน้ำหนักอย่างดี และสูตรชากระชายน้ำผึ้งมะนาว หากเป็นชาเขียวจะช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดการอักเสบ ส่วนชาดำจะช่วยลดการสึกของฟัน เพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า กระชายที่นำมาผสมนี้ปลูกโดยลูกศิษย์ของอาตมา จะว่าเป็นกระชายออร์แกนิกก็ได้ เพราะปลูกโดยปราศจากปุ๋ยเคมี จึงปราศจากสารพิษตกค้าง นำมาทำเป็นเมนูเย็น ดื่มง่าย ปลอดภัย ได้ภูมิต้านทาน
ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา วัดไผ่ล้อม ได้มีนโยบายสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือสังคมในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาโดยตลอด ตั้งแต่การสวดเผาฟรีแก่ศพผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 การให้การสนับสนุนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ไปจนถึงการผลิตยาสมุนไพร สิ่งเหล่านี้ขับเคลื่อนได้ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของศิษยานุศิษย์ทุกภาคส่วน อาตมาจึงขอใช้หน้ากระดาษนี้ขออนุโมทนาด้วยความจริงใจยิ่งแก่แรงศรัทธาของทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยมากน้อย หรือเป็นกำลังกาย และแรงใจในแต่ละภาคส่วน ทุกท่านล้วนมีส่วนในกองบุญนี้ทั้งสิ้น ขออนุโมทนา และขออำนวยพรให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญ เงินทองไหลมานะชาลีติกันถ้วนหน้าทุกคนเทอญ ขอเจริญพร