อุบลราชธานี ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมจิตอาสาพช.เอามื้อสามัคคี

อ.โพธิ์ไทร ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคี เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมปลูกพืชสมุนไพร ต้านภัยโควิด-19

วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ นางสาวปาณิสรา ใจเย็น พัฒนาการอำเภอโพธิ์ไทร ผู้แทนนายอำเภอโพธิ์ไทร เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมี เครือข่ายครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน (ผู้นำ อช.) ผู้นำกลุ่มองค์กรสตรี นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) ประชาชนจิตอาสา และตัวแทนครัวเรือนต้นแบบระดับครัวเรือน (Househole Lab Model for quality oflife : HLM) ระดับครัวเรือน ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคีฯ ณ แปลง “โคก หนอง นา พช.” นางสุนันทา แสงแดง บ้านโพธิ์ไทร หมู่ที่ 2 ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี โดยเน้นการจัดกิจกรรมในรูปแบบ New Normal โดยเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ และทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุขร่มเย็น รวมทั้งสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และแนวพระราชดำริต่างๆ ดังพระปฐมบรมราชโองการ ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” กระทรวงมหาดไทย จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการภายใต้โครงการจิตอาสาพระราชทาน 904 เพื่อสร้างสำนึกด้านจิตสาธารณะและส่งเสริมด้านการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม และภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้กำหนดให้หน่วยงานในสังกัดทั่วทั้งประเทศ จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคีเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในห้วงเดือนกรกฎาคม 2564

สำหรับกิจกรรมจิตอาสาเอามื้อสามัคคีฯ ในครั้งนี้ ประกอบด้วย การปลูกป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่าง การปลูกผักสวนครัว และปลูกพืชสมุนไพร เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร อาทิ กระชาย ฟ้าทะลายโจร ข่า ตะไคร้ ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 และบรรเทาอาการเบื้องต้นของไข้หวัด หรือป้องกันการติดเชื้อได้ รวมถึงสืบสานประเพณีอันดีงามในการสร้างความรักสามัคคีในชุมชนท้องถิ่นและเป็นการส่งเสริมการมีน้ำใจที่เอื้ออาทรต่อกัน ซึ่งปัจจุบันเกือบจะจางหายไป ถือเป็นอีกประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการดำเนินงาน “โคก หนอง นา” ทำให้มีความมั่นคงของชีวิต มีความมั่นคงทางอาหาร พอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น มีเครือข่ายคุณธรรม เกิดบุญเกิดทานอยู่ในแปลง “โคก หนอง นา” อีกด้วย

โอกาสนี้ นางสุนันทา แสงแดง เจ้าของแปลงพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับครัวเรือน (Househole Lab Model for quality oflife : HLM) ได้เปิดเผยว่า “ขอบคุณรัฐบาล กรมการพัฒนาชุมชน จังหวัด อำเภอ นพต. ส่วนราชการ และทุกท่านให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคีในครั้งนี้ ตนมีความฝันที่จะทำเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง แต่ขาดแหล่งน้ำ และไม่มีเงินทุนในการจ้างขุดสระน้ำ เมื่อทราบว่าราชการมีโครงการที่มาขุดบ่อทำโคก หนอง นา ให้ฟรี จึงรีบเติมความฝันที่มีจึงสมัครเข้าร่วมโครงการทันที และตั้งใจจะทำโคก หนอง นา ให้สำเร็จ สุดท้ายนี้ รู้สึกดีใจและขอบคุณ ที่ส่วนราชการ และทุกท่าน ที่มาร่วมเอามื้อสามัคคี ตนจะไปช่วยเอามื้อในแปลงอื่นอย่างแน่นอนและอยากให้มีกิจกรรมนี้อีกอย่างต่อเนื่องด้วย” เจ้าของแปลงกล่าวอย่างมีความสุข

ขณะที่ นางสาวปาณิสรา ใจเย็น พัฒนาการอำเภอโพธิ์ไทร ได้เปิดเผยว่า “แปลงพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับครัวเรือน (Househole Lab Model for quality oflife : HLM) แห่งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาชุมชน และใช้เรียนรู้ในการพัฒนาชุมชนให้มีกิจกรรมที่สร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนในชุมชนมีความรักสามัคคี เป็นสังคมแห่งความเกื้อกูล เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหาร ถ่ายทอดองค์ความรู้โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ซึ่งเป็นการน้อมนำเอาแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาสืบสาน รักษา ต่อยอด และสามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในการพึ่งตนเองและสร้างทางรอดในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นการจัดการพื้นที่ซึ่งเหมาะกับพื้นที่ เป็นการผสมผสานทฤษฎีใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้านให้สอดคล้องกับธรรมชาติในพื้นที่นั้นๆ และจะช่วยให้ธรรมชาติจัดการตัวมันเองโดยมีมนุษย์เป็นส่วนส่งเสริมให้มันสำเร็จเร็วขึ้น อย่างเป็นระบบ ขอขอบคุณทุกท่าน ที่ได้สนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการและกิจกรรมดีๆ ร่วมน้อมนำศาสตร์พระราชา และแนวพระราชดำริ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”

 

นางสาวปาณิสรา กล่าวต่ออีกว่า “ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มาร่วมกิจกรรม จิตอาสาพัฒนาชุมชนเอามื้อสามัคคี และน้อมนำแนวพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร รอบ 2 และร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสาเอามื้อสามัคคีในครั้งนี้ ถือเป็นการใช้แรงงานเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ ในชุมชน สร้างความเป็นส่วนรวม ทำให้ชุมชนสามารถจัดการความเป็นส่นรวมในมิติต่างๆ ด้วยกันได้ ทั้งสภาพแวดล้อม การผลิต การสร้างสังคม ตลอดจนเป็นแหล่งประสบการณ์ ให้การเรียนรู้และสร้างสมภูมิปัญญาไปด้วย สุดท้ายนี้ ขอฝากให้ทุกท่าน ได้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชนได้มีการส่งเสริมให้มีการปลูกสมุนไพร อาทิ ปลูกกระชาย ขิง ฟ้าทะลายโจร ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 และบรรเทาอาการเบื้องต้นของไข้หวัด หรือป้องกันการติดเชื้อได้เช่นเดียวกัน” พัฒนาการอำเภอโพธิ์ไทรกล่าวปิดท้ายหลังจากเข้าร่วมกิจกรรมฯ

อุบลราชธานี เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี : งานประชาสัมพันธ์ สพจ.อุบลราชธานี และ สพอ.โพธิ์ไทร ภาพข่าว/รายงาน