สุพรรณบุรี  ประมงนำกำลังรื้อกระชังเลี้ยงปลาเขื่อนกระเสียวหลังจากยืดเยื้อมานาน

สุพรรณบุรี  ประมงนำกำลังรื้อกระชังเลี้ยงปลาเขื่อนกระเสียวหลังจากยืดเยื้อมานาน
ที่ จ.สุพรรณบุรี นายชูชีพ พงษ์ไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายประพันธ์ ลีปายะคุณ ผู้ตรวจราชการกรมประมง นายเดชา ปรัชญารัตน์ ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมประมง นายเดชา รอดระรัง ประมงจังหวัดสุพรรณบุรี นายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอด่านช้าง นายอุดมพร ผาสุข ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว นายบรรพต สิงหาพันธ์ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านประมง สำนักงานประมงจังหวัดสุพรรณบุรี นายภิญโญ สุนทรวิภาต ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดสุพรรณบุรีนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาดินแดนที่4 อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกันเรื้อกระชังเลี้ยงปลาของผู้ที่ยังฝ่าฝืนเลี้ยงปลาในเขื่อนกระเสียว เพื่อยึดเป็นของกลาง และดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืน หลังจากครบกำหนดให้ผู้เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนกระเสียวได้อุธรณ์ไว้ และยังมีการฝ่าฝืนเลี้ยงอยู่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำกำลังเรื้อกระชังของผู้เลี้ยงปลาทั้งหมด


นายชูชีพ พงษ์ไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าการรื้อกระชังปลาเขื่อนกระเสียวถือเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการประมง 2558 ที่ผ่านมาได้พยายามดูแลเกษตรกรที่ประกอบกิจการด้านการประมง ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย พรบ.การประมง 2558 ซึ่งได้กำหนดขึ้นมาแล้ว และได้มีการประกาศใช้ ซึ่งประกอบกับเขตในการเลี้ยงสัตว์น้ำต่างๆ ปี2562 ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่กำหนดขึ้นมา การใช้พื้นที่สาธารณะประโยชน์ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของชลประทาน และอีกส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวน ตาม พรบ.ป่าไม้ โดยการดำเนินการต่างๆในการรื้อกระชังเลี้ยงปลา ได้มีการแจ้งกับเกษตรกรเลี้ยงปลากระชังมาตลอด และทำตามขั้นตอนของกฎหมาย


นายประพันธ์ ลีปายะคุณ ผู้ตรวจราชการกรมประมง กล่าวว่า สำหรับ แหล่งน้ำเขื่อนกระเสียวจะแตกต่างจากแหล่งน้ำสาธารณะทั่วไป ที่มีหน่วยงานของกรมชลประทานเป็นผู้ขอใช้โยชน์และเป็นผู้ดูและแหล่งน้ำแห่งนี้มีการใช้น้ำอุปโภคบริโภคและหน่วยงานในพื้นที่เห็นว่าน่าจะส่งผลกระทบในเรื่องคุณภาพน้ำก็จะเป็นการบริหารจัดการในพื้นที่ว่าจะให้เลี้ยงหรือไม่ สรุปแล้วคณะกรรมการประมงจังหวัดสุพรรณบุรี เห็นว่าพื้นที่เขื่อนกระเสียวถ้ามีการให้เลี้ยงสัตว์น้ำต่อไปจะมีผลกระทบต่อการนำน้ำไปอุปโภคบริโภคจึงไม่กำหนดให้พื้นที่แห่ง นี้ให้เลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังได้จึงได้มีมาตรการดำเนินการตามขั้นตอนตลอดจนให้เวลาและโอกาสพี่น้องเกษตรกรที่จะปรับตัวที่ผ่านมายังไม่ได้บังคับใช้กฎหมายเพียงขอความร่วมมือแต่เมื่อเวลาผ่านมาเนิ่นนานพอสมควรจึงมีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายที่ผ่านมามีเกษตรกรบางรายได้ให้ความร่วมมือรื้อถอนกระชังไปแล้วแต่ทำไมส่วนที่เหลือจึงไม่รื้อเพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายแต่ไม่ได้หมายความว่าเรามาแล้วต้องรื้อและทำให้ความเสียหายหมดต้องดูว่าเราจะมีแนวทางยืดหยุ่นอย่างไรได้บ้าง


ทางด้านนายเดชา ปรัชญารัตน์ ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมประมง กล่าวว่ากระชังที่เลี้ยงปลาอยู่ในเขื่อนกระเสียวขณะนี้ทั้งเป็นทำผิดกฎหมาย ตาม พรก.ประมง 2 มาตราด้วยกันส่วนคดีอาญา เราได้ดำเนินคดีอาญาทั้งหมดแล้วเพราะฉะนั้นกระชังทั้งหมดนี้คือของกลางในคดีอาญาทุกคดี การรื้อถอนในวันนี้เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายประมงซึ่งมีอำนาจที่จะรื้อถอนที่ผ่านมาเราได้มีการแจ้งเตือนให้รื้อถอนไปแล้วหลังแจ้งความดำเนินคดีและให้เวลามาพอสมควรแล้วเมื่อเห็นว่าเกษตรกรไม่ได้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดเราก็ต้องใช้อำนาจเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ส่วนการรื้อถอนเราจะดำเนินการถอนเป็นระยะตามความเหมาะสมของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีความพร้อมคาดว่าไม่เกินภายใน 45 วันน่าจะเรียบร้อย ส่วนผู้ที่ฝ่าฝืนเลี้ยงอยู่เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมาศาลได้ตัดสินในคดีอาญาไป 1คดีและศาลตัดสินสั่งปรับเป็นเงิน 700,000บาทส่วนที่ยังอยู่จะต้อเสียค่าปรับวันละ10,000บาทจนกว่าจะรื้อถอนเสร็จไม่ว่าจะมีปลาหรือไม่มีปลา
ภัทรพล พรมพัก/สุพรรณบุรี