สคร. 5 ราชบุรี เตือนประชาชนช่วงนี้ฝนตกหลายพื้นที่ ระวังป่วยด้วยโรคไข้ฉี่หนู
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนช่วงนี้มี ฝนตกในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ขอให้ประชาชนระมัดระวังอาจป่วยด้วยโรคไข้ฉี่หนู โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมแนะให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงพลาสติกหุ้มรองเท้า เมื่อลุยน้ำเสร็จต้องรีบล้างมือ ล้างเท้าด้วยสบู่โดยเร็ว
แพทย์หญิงรพีพรรณ โพธิ์ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรีกล่าวว่า จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าช่วงสัปดาห์นี้ยังคงมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศ ทำให้เกิดน้ำท่วมขังตามท้องถนน ประกอบกับเป็นช่วงฤดูกาลเพาะปลูก เกษตรกรอาจต้องเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานานขณะเตรียมพื้นที่ก่อนการเพาะปลูก อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคฉี่หนูได้ง่าย โดยเชื้อโรคนี้จะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล ผิวหนังที่อ่อนนุ่มจากการแช่น้ำนาน และการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อจากฉี่หนูหรือสัตว์อื่นๆ ที่ติดเชื้อได้
แพทย์หญิงรพีพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับอาการของโรคไข้ฉี่หนู คือ มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว จะปวดมากที่น่องและโคนขา อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และตาแดง เป็นต้น หากประชาชนเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำ เป็นเวลานานแล้ว มีอาการดังกล่าว ขอให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว อย่าซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ ที่สำคัญขอให้แจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อที่แพทย์จะได้ตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาทันที ตามอาการและความรุนแรงของโรค โดยให้ยาปฏิชีวนะ เพื่อฆ่าเชื้อโรค ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ เกิดจากพบแพทย์ช้าเกินไป
วิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคไข้ฉี่หนู มีดังนี้ 1.หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงพลาสติกหุ้มรองเท้า เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำโดยตรง กรณีมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ 2.หมั่นล้างมือ ล้างเท้าด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ และอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ 3.หากมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ให้รีบไปพบแพทย์ทันที หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี เบอร์ติดต่อ 032310804 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 แพทย์หญิงรพีพรรณ กล่าวปิดท้าย