“โก่งธนู โมเดล” ต้นแบบตำบลเข้มแข็ง รวมพลัง “บวร” Change for Good รณรงค์ปลูกพืชผักสวนครัวด้วยพืชสมุนไพรไทย เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านภัย โควิด-19
วันที่ 19 กรกฎาคม 2564
นายบรรหาร เนาวรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู พร้อมด้วยนางแสงจันทร์ ระวังกิจ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู นำพนักงาน เจ้าหน้าที่ องค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู ดำเนินกิจกรรม พลัง “บวร” Change for Good “ผู้นำต้องทำก่อน” ปลูกผัก ปลูกรัก ภายในครัวเรือน ณ บริเวณพื้นที่ว่างภายในวัดโบสถ์ หมู่ที่ 4 ตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี
นายบรรหาร เนาวรัตน์ เปิดเผยว่าคนตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 โครงการคือ โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และโครงการ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ต่อยอดเป็นรูปธรรมการขับเคลื่อนตำบลเข้มแข็ง เตรียมพร้อมความมั่นคงทางอาหาร เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) อบต.โก่งธนูได้ปรับการดำเนินงานเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 เพิ่มเข้าไปด้วย ซึ่งนอกจากจะเน้นเรื่องการป้องกันและดูแลสุขภาพแล้ว ชาวโก่งธนูยังคิดไกลไปถึงการเตรียมความพร้อมด้านอาหารของชุมชน โดยต่อยอดจากโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ไปสู่โครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักแบ่งปัน” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนในชุมชน ด้วยการนำพืชผักที่ปลูกอย่างปลอดภัยในโครงการมาห่อหุ้มด้วยวัสดุธรรมชาติ และขายราคาถูกให้กับพี่น้องในชุมชน อิ่มท้องพร้อมอิ่มใจ ไร้โควิด-19 ทั้งตำบล
นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู กล่าวต่ออีกว่า สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ เป็นการร่วมมือของเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู กับผู้นำชุมชน ทำให้เกิดความสามัคคีระหว่างหน่วยงานกับชุมชน ในการทำงานที่เกิดจากการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 (COVID-19) อาทิ การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์และการเว้นระยะห่าง ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) โดยร่วมกันปรับปรุงแปลงผักสวนครัว ออกกำลังกายด้วยการปลูกพืชและสมุนไพร อาทิ กระชาย ตะไคร้ กะเพรา โหระพา พริก เพิ่ม ในส่วนผักสวนครัว ซึ่งดำเนินการปลูกต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม และภูมิคุ้มกันทางสังคมอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) อีกด้วย