นครปฐม กราบน้ำใจบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการฉีดวัคซีนให้กับผู้ลงทะเบียนหมอพร้อม ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษามหาราชา พบประชาชนจำนวนมากยืนเข้าแถวเตรียมตรวจสอบประวัติ วัดความดัน โดยมีนายแพทย์ ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน นางพัชรี เกษรบุญนาค รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน พร้อมแพทย์ พยาบาล กว่า50คน ค่อยให้บริการประชาชน ที่มารับการฉีดวัคซีน ที่ทางรัฐบาลจัดสรรลงมาให้ ประชาชนและมีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ซึ่งในเขตพื้นที่อำเภอสามพรานในขณะมีการระบาดของโรคโควิด-19อย่างหนักในหลายตำบล ในขณะที่ ผู้รับวัคซีนบางรายไม่สามารถลงจากรถยนต์ที่มีญาติๆพามา ทางนางพัชรี เกษรบุญนาค รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน ก็ลงไปฉีดให้ด้วยตนเอง หรือบางรายต้องนั่งรถเข็นพยาบาลก็จะเดินมาฉีดให้ถึงที่
รวมทั้งนายแพทย์ ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน ก็ลงมาช่วยจัดคิวการวัดความดันจนเหงื่อชุ่มกาย และแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่บางจุดไม่มีเวลาแม้แต่จะหาน้ำมาดื่มเองต้องให้เพื่อนนำมาให้ แต่เท่าที่สังเกตการณ์ ก็ยังมีประชาชนบางรายไม่เข้าใจระบบ บางรายตนเองไม่ฉีดแต่จะให้สิทธิ์คญาติมาฉีดแทน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องอธิบายว่าวัคซีนที่มีอยู่ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติที่จะโอนให้ใครได้ บางรายก็ร้องเรียนโรงพยาบาล ทั้งๆที่บุคลากรทางการแพทย์ในตอนนี้ไม่เพียงพอกับการะบาดของโรคยังต้องเอาเวลาไปแก้ไขปัญหาที่คนบางพวกไม่คิดถึงส่วนรวม แม้แต่มีการด่าว่าเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานกันอย่างสุภาพ ต้อนรับประชาชนเป็นอย่างดี
หรือที่โรงพยาบาลสามพราน บริเวณจุดให้บริการตรวจโควิดที่มีเจ้าหน้าที่ไม่ถึง10คน ต้องทำการสวมใส่ชุดป้องกันเพื่อตรวจหาเชื้อโควิดแก่ผู้ที่ไปสัมผัสกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง ที่มารอคิวตรวจกันวันละหลายร้อยคน มีทั้งคนไทยและแรงงานต่างชาติ ซึ่งเป็นพื้นที่โล่ง และอากาศร้อน ทั้งผู้รับการตรวจที่รอนานก็จะด่าว่าเจ้าหน้าที่ทำงานช้า ซึ่งจากการสังเกตการณ์เจ้าหน้าที่มีเท่าเดิมแต่ผู้รับบริการเพิ่มจำนวนมากขึ้น บางวันทราบมาว่าต้องตรวจโควิดให้บริการประชาชน ตั้งแต่เช้า ไปจนถึงสามสี่ทุ่ม โดยไม่มีเวรวันหยุด
เป็นที่หน้าเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน ทำไมผู้ที่รู้ตัวว่า สัมผัสกลุ่มเสี่ยง ไปพื้นที่เสี่ยง ไม่กักตัวเองดูอาการแล้วแจ้งทางอสม. หรือสาธารณสุขใก้ลบ้าน เพราะในตอนนี้ถึงท่านมาตรวจที่โรงพยาบาลหากพบว่าตัวเองติดเชื้อ ทางโรงพยาบาลแทบทุกแห่ง ที่ตรวจก็ต้องส่งท่านไปกักตัวอยู่บ้านใครบ้านมัน เพราะโรงพยาบาลสนามนั้นไม่มีเตียงเพียงพอแล้ว หากท่านกักตัวเองอยู่บ้านท่านไม่ต้องไปอยู่โรงพยาบาลสนามที่มีแต่ผู้ติดเชื้อร้ายแรงบ้าง น้อยบ้าง โอกาสติดเชื้อเพิ่มหากร่างการเราอ่อนแอ ไม่ดีกว่า ที่เราจะหยุดเชื้อกักตัวอยู่บ้าน อีกทั้งยังเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์ได้อีกด้วย
#ทำเพื่อตัวเองก็ได้แค่สิ้นลม #ทำเพื่อสังคมแม้สิ้นลมก็ยังอยู่