กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดประสานงานข่าว กองกำลังสุรสีห์ พร้อมผู้ใหญ่บ้านจับขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง มีการแยก หญิงและชายระหว่างนำพา
พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลาดตระเวนและออกหาข่าวเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานชาวเมียนมา ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
สืบเนื่องจาก หลังจากที่ ชุดประสานงานข่าว กองกำลังสุรสีห์ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีการนำพาแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ บ้านห้วยน้ำขาว หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จึงทำการชี้เป้าหมายประสานข้อมูลให้ หมวดลาดตระเวนที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจลดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ อส.อำเภอเมืองกาญจนบุรี และ ผู้นำหมู่บ้าน ติดตามความเคลื่อนไหว จนพบรถจักรยานยนต์ สกู๊ปปี้ไอ สีส้ม – ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กญ 1460 กาญจนบุรี มีผู้ชายเป็นคนขับ มีผู้หญิงจำนวน 3 คน พร้อมสัมภาระนั่งซ้อนท้าย บริเวณ บ้านใหม่ห้วยน้ำขาว หมู่ที่ 15 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวแจ้งให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ แต่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้วนรถกลับแล้วขับรถพยายามหลบหนี จนรถเสียหลักล้มลงข้างทาง เจ้าหน้าที่ได้ติดตามเข้าตรวจสอบ ผู้ชายคนขับรถได้วิ่งหลบหนี มีกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ WIKO สีดำ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบ สามารถทำการจับกุมแรงงานต่างด้าวได้เป็นหญิง จำนวน 3 คน เป็นชาวเมียนมา
สอบถามเบื้องต้นแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 คน สามารถพูดไทยได้ เดินทางมาจาก จังหวัดอิรวดี ประเทศเมียนมาจะเดินไปทางไปทำงานที่ จังหวัดชลบุรี โดยเสียค่าใช้จ่ายให้นายหน้าชาวเมียนมา จำนวน 25,000 บาท
ในระหว่างทำการตรวจสอบมีเบอร์โทรศัพท์ หมายเลข 0923290359 ซึ่งเป็นเบอร์ของนาย วาณิช สินพันธ์ หรือ ดุด โทรเข้ามาที่โทรทัศน์ของผู้นำพาที่ตกอยู่ โดยพูดว่า “เอ้ย…เองอย่าพึงเข้าไปรับงานนะรู้ป่ะ ปัดโธ่ยุงบินให้ว่อนไปหมดอ่ะ” จากนั้นแล้วว่างสายไป
จากการตรวจสอบทราบว่า กลุ่มขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวที่กระทำผิดในครั้งนี้เป็นกลุ่มของ นายวาณิช สินพันธ์ หรือ ดุด โดยผู้นำพาที่หลบหนีไปได้คือ นายโซ โซ อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา ซึ่งการจับแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 คนนี้ เป็นเพียงแรงงานบางส่วนเท่านั้น ซึ่งจากแหล่งข่าวแจ้งว่ามีอีกบางส่วนเดินลัดเลาะผ่านหุบตาบุญ พื้นที่ บ้านประตูด่าน หมู่ที่ 14 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง ไปแล้ว ชุดประสานการข่าวที่ 2 จึงติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการดังกล่าวให้มาซึ่งการจับกุมแล้ว
ต่อมา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ชุดประสานการข่าวที่ 2 ได้ร่วมกับ หมวดลาดตระเวนที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า นายพนมกร คล้ายเมือง ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองบ้านเก่าและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ร่วมทำการจับกุม รถยนต์กระบะวีโก้ สีดำแคป หมายเลขทะเบียน 2ฒล 9023 กรุงเทพมหานคร ขับขึ้นมารับแรงงานต่างด้าว บริเวณ หุบตาบุญ บ้านประตูด่าน หมู่ที่ 14 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จากการร่วมกันวางแผนจับกุม สามารถจับต่างด้าวได้ เป็นผู้หญิง จำนวน 7 คน ผู้นำพา 1 คน จาการสอบถามทั้ง 7 คน เดินทางมาจาก จังหวัดอิรวดี โดยจะเดินทางไปที่ จ.ชลบุรี จำนวน 4 คน เสียค่าใช้จ่าย 20,000 บาท เขตมีนบุรี กทม. จำนวน 3 คน เสียค่าใช้จ่าย 25,000 บาท
หลังจากนั้นในเวลา 15.30 น.ชุดประสานการข่าวที่ 2 ได้ร่วมกับ หมวดลาดตระเวนที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง และ อส.อำเภอเมืองจับแรงงานต่างด้าว จำนวน 11 คน เป็นชายทั้งหมด บริเวณ ทางเข้าพุตะคอง บ้านห้วยน้ำขาว หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เดินทางเข้าไทยมาแล้ว 1 วัน เดินเท้ามาจาก จังหวัดเมาะลำไย ประเทศเมียนมาไป จังหวัดปทุมธานี 9 คน ค่าใช้จ่าย 12,000 บาท ไปจังหวัดสมุทรปราการ 2 คน ค่าใช้จ่าย 13,000 บาทซึ่งแรงงานชายที่จับได้ทั้ง 11 คน ได้ทำการผลักดันกลับประเทศ บริเวณ หุบสังข์ทอง บ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า ใกล้ช่องทางโตเซ็ง
จากากรสอบถามนายโซ โซ อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมา ซึ่งเป็นผู้นำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองชุดนี้ ให้การว่า แรงงานต่างด้าวที่จับได้ครั้งแรกเป็นหญิง 3 คน และชุดที่ 2 เป็นหญิง 7 คน และจับชุดหลังสุด เป็นชายจำนวน 11 คน เป็นแรงงานต่างด้าว รวม 21 คน เป็นชุดเดียวกันที่ตนเป็นผู้นำพา สาเหตุที่ต้องแยกกันระหว่างการนำพาหลบหนีเข้าเมืองที่ต้องแยกเป็นหญิง และชาย นั้นเนื่องจากการการเดินทางในป่า ผู้ชายจะเดินเร็วกว่าผู้หญิง จึงได้แยกกัน และจากการสอบถาม แรงงานต่างด้าวที่เป็นผู้ชายบอกว่า แระงงานหญิงที่โดนจับครั้งแรกเป็นภรรยาของพวกตน จำนวน 3 คน และบอกผู้นำพาว่า เมื่อเข้าเมืองไทยได้แล้ว ให้ผู้ที่มารับ นำพวกตนไปทำงานโรงงานเดียวกับภรรยา
จากนั้นจึงได้นำตัว นายโซ โซ ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดี ในขอหานำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ต่อไป
เกษร เสมจันทร์ กาญจนบุรี