ปทุมธานี บรูณาการทุกภาคส่วนลงพื้นที่ตรวจ “แคมป์คนงาน” ย่านอำเภอเมืองปทุมธานี ช่วยเหลือตามมาตรการปิดแคมป์คนงาน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 29 มิ.ย.2564 ที่แคมป์งานก่อสร้างบริษัทตรีทัช ที่ทำโครงการก่อสร้างคลังสินค้า ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมนายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอเมืองปทุมธานี นายศักดิ์ศิลป์ ตุลาธร สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานี ดร.สุชาติ เปรมสุริยา ประกันสังคมจังหวัดปทุมธานี นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี นางสุจินต์ ธำรงค์เทพพิทักษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จำกัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมลงพื้นที่แคมป์ที่พักคนงาน เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ ตามมาตรการในระบบประกันสังคมและการปฏิบัติตัวในระหว่างหยุดงาน พร้อมมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค อาทิ ข้าวสาร จำนวน 150 ถุง ( 1 ถุง / 5 กิโล) น้ำดื่ม 1.5ลิตร จำนวน 50 แพ็ค หน้ากากอนามัย จำนวน 50 กล่อง ที่สนับสนุนโดย พระมงคลวโรปการ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เจ้าอาวาสวัดชินวรารามวรวิหาร ในโครงการ ปันน้ำใจ คนไทย ไม่ทิ้งกัน” ใช้พลังบวร เพื่อมอบให้แก่คนงานไว้ประกอบอาหารในระหว่างหยุดงานตามมาตรการจากถูกปิดตามคำสั่ง ศบค.โดยแคมป์คนงานแห่งนี้ มี จำนวนพนักงานที่พักอาศัยในเเคมป์ขณะนี้จำนวน 144 คน เป็นคนไทย 51ราย เมียนมาร์ 78รายและกัมพูชา 15 ราย โดยไม่พบผู้ติดเชื้อ
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้กำชับผู้ประกอบการ ผู้รับเหมา ในการดูแลคนงานในแคมป์ เช่น การสื่อสารทำความเข้าใจกับคนงานเพื่อลดความเครียด การดูแลสิ่งของอุปโภคบริโภค ตลอดจนวัตถุดิบในการประกอบปรุงอาหารในช่วงที่ปิดแคมป์ การปรับปรุงสุขลักษณะในแคมป์ และขอให้จัดทำแผนปฏิบัติตามมาตรการ Bubble Protocol ของทางราชการ เป็นมาตรการที่ขอความร่วมมือผู้ประกอบการก่อสร้าง สถานประกอบการ หรือโรงงานที่มีแคมป์ที่พัก ให้คนงานและผู้อยู่อาศัยทั้งหมด อยู่เฉพาะในบริเวณพื้นที่ทำงานหรือ พื้นที่ก่อสร้าง (Contruction Site) และแคมป์ที่พัก (Camp)โดยขอให้พนักงานผู้ควบคุมเป็นผู้ดูแลจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคตามความจำเป็นให้กับคนงาน จัดให้มีระบบ รับ -ส่ง หรือติดตามการเดินทาง ระหว่างพื้นที่ก่อสร้างและแคมป์ที่พัก เพื่อควบคุมโรคตามมาตรฐาน มีมาตรการควบคุมจำกัดช่องทางเข้า-ออก มีการจัดสถานที่ทำงานและที่พักอาศัยที่สะอาด ถูกสุขอนามัย มีการตรวจคัดกรองโรคทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงแพร่ระบาด covid-19 พร้อมจัดทำทะเบียนรายชื่อคนงานและผู้อยู่อาศัยทุกคน รวมทั้งติดตามตรวจสอบสุขภาพ และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
กรณี พบการป่วย หรือมีอาการน่าสงสัย หรือพบผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อ covid-19 จำนวนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ให้แยกกักตัว และดำเนินการตามมาตรการ Bubble and Seal แยกส่วนกักกันตามความเสี่ยง พร้อมแจ้งสาธารณสุขพื้นที่ทันที เพื่อแยกผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยงออกจากชุมชน อันเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เพื่อให้ทุกแคมป์พร้อมปฏิบัติทันทีเมื่อเปิดให้ทำงานได้ตามปกติ โดยกระทรวงแรงงานจะจ่ายเงินเยียวยา 50 เปอร์เซ็นต์ ตามรายชื่อแรงงานที่ยังกักตัวอยู่ในแคมป์เท่านั้น จึงขอความร่วมมือนายจ้าง คุมเข้ม สกัดไม่ให้แรงงาน หนีออกมา พร้อมให้จัดหาอาหาร เครื่องดื่มให้ครบ 3 มื้อ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแคมป์คนงานระหว่างที่มีการปิดแคมป์จะมีหน่วยงานส่งวัตถุดิบที่มาจากตลาดที่ได้มาตรฐาน นำมาไว้ให้คนงานเลือกซื้อวัตถุดิบนำไปประกอบอาหารภายในแคมป์โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้จังหวัดปทุมธานี จะบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ลงไปตรวจโควิด-19 เชิงรุกทุกแคมป์ที่ปิด และหากแคมป์ใดไม่มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ถือว่าปลอดภัยแล้วและได้รับวัคซีนในส่วน ม.33 แล้ว ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย จะดำเนินการปลดล็อคให้แคมป์นั้นกลับมาเปิดได้โดยเร็วที่สุด และอาจไม่ต้องรอให้ครบ 1 เดือน
ด้านนายพิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอเมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการปิดแคมป์แห่งนี้ พร้อมดำเนินการตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด เช่น ปรับปรุงด้านสุขลักษณะภายในแคมป์ที่พักคนงาน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในที่พักอาศัย นอกจากนี้ยังได้แนะนำแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการระบาดในวงกว้างให้กับผู้ที่กักตัวภายในแคมป์ พร้อมได้กำชับให้หน่วยงานเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบแนวโน้ม และสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงทีหากพบผู้ติดเชื้อ