อธิบดี พช. นำข้าราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและภาคีเครือข่าย บริจาคโลหิตให้สภากาชาดไทย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี และบรรเทาวิกฤติขาดเลือดช่วงโควิด-19
วันที่ 23 มิถุนายน 2564 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นำผู้บริหาร ข้าราชการ บุคลากรกรมการพัฒนาชุมชนส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และภาคีเครือข่าย ร่วมบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ครั้งที่ 2 โดยมีนางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กรศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กรุงเทพมหานคร
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า “โครงการบริจาคโลหิตร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิบัติบูชาน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่พระองค์ท่านทรงมีพระราชหฤทัยอันแน่วแน่ในการสนองงานตามพระราชปณิธานสืบสาน รักษา และต่อยอด สร้างคุณค่า ผลประโยชน์คืนสู่สังคม และเพื่อให้บุคลากรกรมการพัฒนาชุมชน ภาคีเครือข่ายได้มีส่วนร่วม เป็นการส่งเสริมการทำความดี การมีจิตสาธารณะ ซึ่งมีกำหนดการบริจาคโลหิตจำนวน 8 ครั้ง โดยดำเนินการมาแล้วจำนวน 1 ครั้ง ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของโครงการ และด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ขณะนี้ ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมด้วย การดำเนินกิจกรรมโดยเฉพาะที่ต้องเกี่ยวพันกับผู้คนจำนวนมากต้องเลื่อน งด หรือปรับรูปแบบ เพื่อลดความเสี่ยงและความกังวลของสังคม วิกฤตครั้งนี้ยังส่งผลให้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่สามารถจ่ายเลือดให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากผู้บริจาคโลหิตมีจำนวนลดลงทุกแห่งทั่วประเทศ หน่วยงานยกเลิกการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาด ส่งผลให้มีปริมาณโลหิตลดลงมากถึงร้อยละ 50 ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่ๆ หลายแห่งมีความต้องการเลือดสูงมาก ที่ต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดให้ผู้ป่วย รวมทั้งผู้ป่วยเด็กโรคเลือดที่ต้องใช้เลือดในปริมาณมากและต่อเนื่อง ด้วยภาวะขาดแคลนอย่างหนักเช่นนี้ กรมการพัฒนาชุมชน จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างกุศลครั้งใหญ่ โดยได้เชิญชวนทั้งบุคลากรกรมการพัฒนาชุมชนส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และภาคีเครือข่าย จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครนายก จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยในครั้งมีผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิตจำนวน จำนวน 212 คน มีปริมาณโลหิตที่ได้รับบริจาค จำนวน 151 ยูนิต หรือไม่น้อยกว่า 52,850 ซีซี
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมนี้จะเป็นสื่อกลางก่อเกิดความอิ่มเอมใจทั้งผู้ให้ ผู้รับ และสังคม ช่วยเติมเต็มความต้องการของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ซึ่งในแต่ละวันต้องการโลหิตเพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ และเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ มากกว่า 1,800 – 2,000 ยูนิต ซึ่งการ “บริจาคโลหิต” เป็นอีกหนึ่งความดีที่ทำได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีใจกุศลที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ขอเชิญชวนร่วมบริจาคโลหิตฝ่าวิกฤติโควิด-19 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัยให้กับผู้ป่วย ได้ทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ อยู่จังหวัดไหน บริจาคจังหวัดนั้น หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โทร.0 2256 4300 หรือ 1664”