ธรรมะจากหลวงพี่น้ำฝนโควิดร้ายเอาชีวิตไปก็ยังแพ้ความดีที่ทำไว้
โดย พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ําฝน)
วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม www.facebook.com/LuangPeeNumFonโทร.081-789-5656
เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน วันที่ 30 เมษายน มีความแจ่มใส ร่าเริง พร้อม 2564 เป็นวันที่คนไทยหลาย ๆ คนใจหาย ที่จะให้พลังบวกแก่ทุกคน เนื่องจากนายอาคม ปรีดากุล หรือ น้าค่อม ชวนชื่น แม้เป็นถ้อยคําที่ฟังดูแล้วนักแสดงตลกชื่อดัง ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคโควิด-19 น่าตกใจ น้าค่อมเป็นคนที่ ที่กําลังระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ นํามาซึ่งความโศกเศร้า ตั้งใจทํางาน มีวินัยในการ แก่ผู้คนในวงการ และแฟน ๆ ของน้าค่อมทั่วประเทศ ทํางาน อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี รวมถึงอาตมาที่ใจหาย เพราะอาตมาได้เห็นน้าค่อมในหน้าจอ ทําให้ศิลปินรุ่นใหญ่ก็รักใคร่ มานานไม่ต่างกับผู้ชมชาวไทยทั้งหลายศิลปินรุ่นเล็กก็นับถือ เหล่านี้ ภาพสุดท้ายของน้าค่อม คือภาพที่น้าค่อมเดินลงจาก มาจากการให้ของตัวน้าค่อมเอง บันไดบ้าน เพื่อไปขึ้นรถพยาบาล นั่นคือภาพสุดท้ายที่แฟนๆ ให้พลังบวก ให้ความน่ารัก ได้เห็น ก่อนที่อีกไม่กี่วันต่อมา อาการน้าค่อมจะทรุดหนักลง ให้ความสดชื่น เบิกบาน จนสุดท้ายก็ถึงแก่กรรมอย่างสงบ โดยไม่ได้กลับมายังบ้าน สําราญใจ ไม่ให้พิษภัยอันใด น้าค่อมอีกเลย มิหนําซ้ำ ญาติพี่น้อง มิตรสหายก็ไม่มีโอกาส นี่แหละการให้ที่ทําง่ายและ ได้เห็นน้าค่อมอีกเลย ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้รดน้ําศพ ได้ อยู่ใกล้ตัวที่สุด และเมื่อเป็น ดูหน้าเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเมื่อน้าค่อมจากไปในยามเช้า เช่นนี้แล้วก็สมกับพุทธพจน์ พอยามบ่ายก็เคลื่อนร่างไปฌาปนกิจ ณ วัดพระศรีมหาธาตุ ที่ว่า “ททมาโน ปิโย โหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก” จริง ๆ โดยที่ทุกคนแม้แต่คนในครอบครัว ได้แต่ส่งน้าค่อมอยู่ไกล ๆ อาตมาเคยกล่าวไว้แล้วในจุดไฟในใจคนฉบับก่อน ๆ ว่า ส่งได้แค่เชิงบันไดเมรุ ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว อาชีพนักแสดงตลกนั้น ก็เป็นอาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตามมาตรการควบคุมโรค มิต่างกับนักแสดงแขนงอื่น เพราะเป็นอาชีพที่ใช้ศิลปะสร้าง ความเป็นอนิจจังปรากฏขึ้นต่อหน้าเราทั้งหลาย เมื่อคน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะแก่ผู้คน ตลอดเวลาที่ผ่านมา เรา คนหนึ่งออกจากบ้านไป ไม่มีใครจะล่วงรู้ได้ว่าเขาจะได้กลับ เห็นทั้งทางจอแก้วจอเงินว่าน้าค่อมได้ปฏิบัติหน้าที่ในอาชีพนี้ มาไหม ฉะนั้นแล้วเวลาในชีวิตมนุษย์ของทุกคนมีค่า ขอให้ ด้วยดี เพียงแค่เห็นตัวน้าค่อม คนก็พร้อมจะหัวเราะร่าใน รักษาชีวิตอันมีค่า ตราบเท่าที่ชีวิตยังมีอยู่อย่าให้เสียเวลาชีวิต ทันทีโดยมิต้องพูดอะไร สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีความรัก โดยเปล่าประโยชน์ หรือเป็นโทษเลย ในวิชาชีพ เพราะความรักในวิชาชีพทําให้งานของเราออก ชีวิตน้าค่อมนั้น มาถึงที่สิ้นสุดแล้ว ต้องเดินออกจากบ้าน มาดี น้าค่อมทําให้เห็นว่า น้าค่อมรักในวิชาชีพนี้ น้าค่อมเต็มที่ ไปอย่างไม่มีวันกลับ มิได้พบกับลูกรัก ญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องอีก กับงานทุกชิ้น จะใหญ่จะเล็ก จอแก้วจอเงินหรือบนเวที แต่เมื่อจุดสิ้นสุดมาถึง เราพบว่าชีวิตน้าค่อมนั้นมีคุณค่ามาก ความสําเร็จของน้าค่อมคือผู้คนมีความสุขสนุกสนาน มีรอยยิ้ม เพราะเมื่อน้าค่อมจากโลกนี้ ทุกคนแสดงความรักและอาลัย และเสียงหัวเราะ แม้วันนี้น้าค่อมจะไม่อยู่แล้ว แต่เสียง มิต่างกับเมื่ออยู่ที่ทุกคนก็รักในตัวน้าค่อม ยินดีจะได้ยินเสียง หัวเราะและคําในตํานานจะยังคงอยู่คู่วงการตลกไทย ในฐานะ สบถด่าอันเป็นเอกลักษณ์ ดุจคําอวยพร ที่ไม่มีใครพูดคําดัง ตํานานที่ทุกคนจดจํา กล่าวได้จับใจเท่าน้าค่อม การเป็นที่รักของคนทั้งเมืองเช่นนี้ เราทุกคนก็เป็นเช่นนี้ ชีวิตที่มีคุณค่าคืออะไร อยู่ให้เขา มิใช่เรื่องธรรมดา น้าค่อมมิใช่คนมีชาติตระกูล ไม่ได้รูปงาม รักใคร่ จากไปให้เขาคิดถึง นี่แหละชีวิตที่มีคุณค่า อย่าให้เป็น ไม่ได้รวยสินรวยทรัพย์มาแต่ต้น มิใช่คนมีการศึกษาสูงอะไร ชีวิตที่อยู่แล้วรกโลก พุทธภาษิตกล่าวไว้ว่า “นสิยา โลกวฑฒโน ต้องปากกัดตีนถีบมาตลอดจนกลายเป็นดาวตลกอันดับหนึ่ง ไม่ควรเป็นคนรกโลก” ถ้าไม่อยากรกโลก ก็อย่าทําตนให้ ของเมืองไทย แต่ทุกคนก็รักน้าค่อม ความรักน้าค่อมนี้มาจากไหน รกโลก คืออยู่แล้วให้คนชัง จากไปยังทําให้คนดีใจ การไม่เป็น ก็มาจากตัวน้าค่อมเอง
คนรกโลกนั้นทําได้ง่ายนิดเดียว คือ การไม่ทําความเดือดเนื้อ การเป็นที่รักของคนทั้งหลาย เริ่มต้นด้วยการให้ ร้อนใจแก่ใคร การไม่เบียดเบียนผู้อื่น ควรเป็นผู้ให้มากกว่า ไม่จําเป็นต้องรวยทรัพย์สินอะไร เพราะการให้ที่ว่านี้มีจํากัด ผู้รับ แม้ไม่มีทรัพย์สินเงินทองก็ให้ได้ ให้ความสบายใจแก่คน เพียงตัวเงิน หรือทรัพย์สินอื่นใด มาจากใจโดยแท้ น้าค่อม รอบข้าง ให้ความอบอุ่นใจ ให้รอยยิ้ม ให้ความเมตตากรุณา ถึงจะมีบทบาทเป็นตลกปากร้าย แต่ในตัวนั้นมีพลังบวก ถ้าทุกคนบนโลกปฏิบัติต่อกันเช่นนี้ โลกคงจะน่าอยู่กว่าที่เป็น จะเห็นได้ว่าที่กล่าวมานั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องยากใด ๆ เลย ขอให้เราทุกคนเป็นผู้ให้กันเถิด
สุดท้ายนี้อาตมาขอฝากญาติโยมทุกคน ขอให้รักษาตัว จากภัยโรคระบาดนี้ ซึ่งเป็นภัยโรคระบาดอันร้ายแรง ท้าทาย มนุษยชาติ แม้มนุษยชาติวันนี้มีเทคโนโลยีมากมาย สามารถ สร้างวัคซีนได้ในไม่กี่ปี แต่ทุกคนก็บักโกรกเต็มที เชื้อร้าย ก็ยังกลายพันธุ์หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ตลอด นี่จึงเป็น บททดสอบของมนุษยชาติทุกคน ที่ทุกคนนั้นลําบากร่วมกัน อาตมาอยากให้ทุกคนพิจารณาให้ดีว่า แม้เราลําบาก แต่ เราก็ยังควรช่วยกันและกัน พยุงกันและกัน และสามัคคีกัน เพื่อผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้ เพื่อที่ต่อไปเราจะเข้มแข็งขึ้น และเห็นคุณค่าของการร่วมแรงร่วมใจกัน
ขอเจริญพร •