ปส.รวบเครือข่ายยานรก พร้อมยาบ้า 8 ล้านเม็ด คาโกดังย่านหนองเสือ ปทุมธานี
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 23มี.ค.2564 พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผบ.ตร.(ปป),พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี นายสมชาย ตรีณาวงษ์ นายอำเภอหนองเสือ พ.ต.อ.ธีรยุทธ เสรีนนท์ชัย ผกก.สภ.หนองเสือ ร่วมนำกำลังจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด 7 คน ได้แก่นายกฤษกร ประชุมพรรณ์ อายุ 39 ปี นายเอกรัฐ ราชเวียง อายุ 39 ปี น.ส.สุลีพร แซ่ลิ้ง อายุ 40 ปี น.ส.ฐิตินันท์ ไม้ดัด อายุ 37 ปี นายศราวุธ อ่ำจีน อายุ 41 ปี นายเอก มาดี อายุ 24 ปี และ นายณัฐพล เข็มเพชร อายุ 22 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 8,000,000 เม็ด รถยนต์ 4 คัน และโทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ได้ที่โกดังร้างไม่มีเลขที่ ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผบ.ตร.เปิดเผยว่า กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ได้ทำการสืบสวนเครือข่าย ยาเสพติดกลุ่มนายโล่ง แซ่ลี เป็นบุคคลหลบหนีหมายจับไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีพฤติการณ์สั่งการให้กลุ่มเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือมายังพื้นที่ภาคกลาง ทำการจัดเก็บและกระจายยาเสพติดให้กับกลุ่มลูกค้าทางภาคใต้และในพื้นที่ปริมณฑล จึงเฝ้าติดตามพฤติการณ์เรื่อยมา กระทั่งชุดจับกุมสืบสวนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายจะทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา นำมาเก็บพักรอไว้เพื่อเตรียมกระจายที่โกดังร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ จึงขับรถติดตามมาและพบว่ามีการนำยาบ้ากระจายใส่ไว้ท้ายรถเก๋งและรถกระบะสีดำก่อนขับเข้ามาที่โกดังแห่งนี้ กระทั่งเมื่อ 08.00 น. จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้สำเร็จพร้อมกับของกลางยาบ้า 4 ล้านเม็ด ขณะเดียวกันยังพบอีกว่ามีการขับรถกระบะสีขาวตู้ทึบไปจอดทิ้งไว้ไม่ห่างจากโกดัง ตรวจสอบภายในพบยาบ้าอีก 4 ล้านเม็ด รวมทั้ง 2 จุด พบยาบ้า 8 ล้านเม็ด จึงได้ทำการจับกุมนายกฤษกร ประชุมพรรณ์ กับพวกรวม 7 คน ต่อมาได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่ง พงส.บก.ปส.3 ดำเนินคดีและขยายผลสืบสวนเครือข่ายที่ร่วมขบวนการด้วยต่อไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด มุ่งเน้นเครือข่ายรายสำคัญและบุคคลที่หลบหนีหมายจับคดียาเสพติด อีกทั้งให้เน้นการขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินรวมทั้งการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปประเทศที่ 3 โดยผ่านระบบคมนาคมและโลจิสติกส์ ตลอดจนทำลายเครือข่ายกลุ่มนักค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ
